20120916

โป่งข่าม

โป่งข่ามเมืองเถิน

    

  คัดเลือกบางตอนมาจาก ?   คู่มือแก้วโป่งข่ามฉบับวชิรเป๊กสูตร? อ.ศักดิ์ รัตชัย,   2514

  ความเป็นมาของ แก้วโป่งข่ามขุมแก้วแม่แก่ง
   
      
  คำว่า ?แก้วโป่งข่าม?   หมายเอาหินแก้วจากบริเวณดอยต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของดอยโป่งหลวงในเขตตำบลแม่ถอด   อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง
      
  แหล่งกำเนิดคือบริเวณเทือกดอยขุนแม่อาบ   และขุนแม่อวม ขุนดอยต่างๆ อันมีด้วยห้วยออกรู ดอยแม่ผางวง ดอยห้วยมะบ้า ดอยห้วยตาด   ดอยโป่งหลวง ดอยห้วยกิ่วตู่ ดอยโป่งแพ่ง ดอยห้วยตาด และดอยผาแดง   ในเทือกดอยขุนแม่อาบได้ให้กำเนิดแต่ดอยห้วยออกรูของดอยขุนแม่อาบ   ส่วนน้ำห้วยแม่เตินกำเนิดแต่ดอยผาแดงระหว่างดอยขุนแม่อวบ และดอยขุนแม่อาบติดต่อกัน   เทือกเขาดังกล่าวคือ เขตดอยพันวาที่กั้นแนวระหว่างเมืองเถิน   เมืองลี้เขตจังหวัดลำพูน
    
  โดยที่อาณาเขตของบ่อแก้วโป่งข่ามที่เลื่องลือ   อยู่ในตอนลุ่มดอยขุนแม่อาบและจอมดอยผาแดงอันเป็นใหญ่ในจอมดอยทั้งปวงในละแวกนั้น   กำเนิดเรื่องราวอันศักดิ์สิทธิ์ของแก้วโป่งข่าม   อยู่ในศูนย์กลางพื้นที่ซึ่งเรียกกันว่าดอยโป่งหลวง   อันให้กำเนิดห้วยโป่งระหว่างช่องดอยโป่งหลวงและโป่งแพ่งติดต่อกัน   ห้วยโป่งไหลรวมสมทบกับห้วยมะบ้า   และห้วยแม่ผางวงลาดลงสู่บริเวณบ้านนาบ้านไร่รวมกับห้วยบ่อช้างล้วง น้ำห้วยแม่แก่ง   ลำน้ำห้วยแม่แก่งก็ไหลขนานกันคนละฟากดอย   ไปพบแม่น้ำวังที่บ้านสบเตินและบ้านสบแก่งของแม่น้ำวัง   ซึ่งแม่น้ำวังก็เป็นเส้นโลหิตใหญ่ของจังหวัดลำปางและอำเภอเถินนี้ด้วย
       
  เฉพาะห้วยแม่แก่ง   ที่จริงก็เป็นเพียงลำห้วยเล็กๆที่แทบมองไม่เห็นน้ำเมื่อเข้าฤดูแล้ง   แต่ด้วยระบบชลประทานแบบเหมืองฝายของชาวบ้านน้ำแม่แก่งได้มีส่วนป้อนน้ำเลี้ยงพื้นนาเขตบ้านเวียง   บ้านอุมลอง บ้านล้อมแรด บ้านท่านาง และบ้านสบคือของตำบลล้อมแรด   อันเป็นตำบลในเขตตั้งที่ว่าการอำเภอเถิน   ทั้งหมดอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำวัง
  ตำบลแม่ถอด อยู่เหนือสุดของอำเภอเถิน   และตัวอำเภอเถิน ก็อยู่ใต้สุดของแผนที่จังหวัดลำปาง
    
  คำว่า ?โป่งข่าม?
    
  คำว่า ?โป่ง?   ตามพจนานุกรมหลักภาษาไทยพายัพ เรียบเรียงโดยพระธรรมราชานุวัตร   ราชบัณฑิตยสถานจัดพิมพ์ในปี พ.ศ. ๒๕๐๒ แปลคำว่าโป่งดิน คือดินโป่ง   โป่งน้ำคือน้ำโป่ง มิได้แปลคำว่าโป่งโดยเฉพาะส่วนพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.   ๒๔๙๓ แปลคำว่า โป่งดิน คือดินที่มีเกลือโป่งน้ำคือช่องดินที่มีน้ำพุขึ้นมา คำว่า   ?โป่ง? หมายถึง ของที่พองลม เรียกผีที่อยู่ตามดินโป่งว่าผีโป่ง   เรียกป่าที่ดินโป่งว่าป่าโป่ง
  คำว่า ?ข่าม?   หมายถึงการอยู่ยงคงกระพัน
  แต่เมื่อคำว่า ?โป่งข่าม?   มารวมกันจะแปลอย่างไรจึงจะกะทัดรัดที่สุดเล่า
    
  บริเวณป่าตามขุนดอยแม่แก่ง   มีดินโป่งอยู่หลายแห่งก่อนที่จะถึงบริเวณที่เรียกว่าโป่งหลวง   แหล่งกำเนิดชื่อโป่งข่ามมีโป่งแกอยู่ด้านซ้ายมือ โป่งแพ่ง โป่งแม่ล้อม   อยู่ถัดๆไปล้อมรอบบริเวณที่เรียกว่าโป่งหลวง   พระฤๅษีที่อยู่ในป่ามักอาศัยถ้ำและอยู่ได้ด้วยการอาศัยเกลือจากดินโป่งด้วย   ที่เขตน้ำแม่แก่งของตำบลแม่ถอดนี้   มีถ้ำอยู่ถ้ำหนึ่งอาจจะเคยเป็นที่อยู่ของพระฤๅษีในสมัยโบราณ   ปัจจุบันเป็นวัดขึ้นแล้วชื่อ วัดสุขเกษม   ยังมีตำบลที่อยู่ติดกับตำบลแม่ถอดชื่อตำบลนาโป่ง   แต่โดยบริเวณโป่งหลวงอันเป็นที่มีสัตว์ลงกินดินโป่งมากเป็นพิเศษ และ   มีกิติศัพท์ในเรื่องราวความข่ามคงต่างๆ อาจจะหมายถึง บริเวณโป่งดินที่เคยข่าม ก็ได้   ทั้งนี้ก็เพราะคำว่าโป่งนี้ หมายถึงสิ่งที่ผุดขึ้นมาได้ด้วย เช่นโป่งน้ำพุร้อน   ที่จังหวัดเชียงราย   ไส้เทียนที่ลงยันตคาถาเรียกว่าโป่งเทียนดินที่เป็นพิษต่อการเจริญเติบโตของพืช   เช่นบริเวณสถานที่เรียกว่าโป่งแห้งในเขตตำบลบ้านเป้า อำเภอเมืองลำปาง   หมายถึงที่ผุดขึ้นมาของดินพิษ หินที่มีเนื้ออ่อนทำหินลับมีดได้   เช่นหินในเขตอำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง เรียกว่าหินโป่ง ซึ่งในตำบลแม่ถอดนี้   ยังคงใช้หินโป่งของอำเภอแจ้ห่มเจียระไนแก้วโป่งข่ามอยู่เสมอ   แหล่งแก้วตำบลแม่ถอดเป็นแก้วหินที่งอกอยู่ใต้ผิวดินในลักษณะสิ่งที่ผุดขึ้นมาโดยช่องร้าวของพิภพ   เมื่อมีสิ่งมีค่าหาได้ยากผุดขึ้นมาได้เช่นนี้   และมีเรื่องราวของความข่ามคงเล่าสืบกันมาก็อาจจะตีความหมายด้วยวิธีแปลอย่างสละสลวยได้อีกว่าแหล่งที่ผุดขึ้นมาแห่งความข่ามคง   ในสภาพสถานที่นั้นเป็นโป่งแก้วอันล้ำค่าอีกด้วย
      
  โดยที่เทือกเขาขุนตาลอันแผ่มาถึงขุนแม่ถอด ขุนแม่เตินและขุนแม่อาบ ขุนแม่อวม   ซึ่งแผ่ลงมาเป็นอาณาบริเวณบ่อแก้วโป่งข่ามนี้   เป็นภูเขาที่มีรอยผุรอยร้าวน้อยกว่าภาคกลาง หินอัคนีที่แซกขึ้นมาเป็นช่องเล็กๆ   หินแก้วต่างๆที่กำเนิดจากเทือกดอยดังกล่าวนี้ จึงมีทรงผลึกเล็กๆขนาดจุ๋มจิ๋ม   ซึ่งเหมาะที่สุดในการที่จะเป็นหินแก้วประดับมากกว่าประโยชน์ทางอุตสาหกรรมความมีสภาพเป็นทรงผลึกเล็กๆนี่เอง   ที่ทำให้ลวดลายต่างๆจากสินแร่อื่นๆเข้าไปปรากฏ   จึงมีสภาพที่สมบูรณ์แบบในการที่จะทำเป็นแก้วแหวนต่างๆ เป็นสิ่งที่เรียกว่า   ?โป่งข่าม? โดยแท้
    
  จากปรากฏการณ์แต่สมัยก่อกำเนิด   มีที่น่าประหลาดมหัศจรรย์ยิ่งก็คือ โดยโครงสร้างของผลึกแก้วต่างๆที่ขุมแก้วโป่งข่าม   อยู่ในรูปการแต่งเสริมทางธรรมชาติแปลกๆ   คือมีหินแก้วที่งอกขึ้นแล้วงอกขึ้นทับขึ้นอีกดังที่เรียกว่าแก้วเขาแก้ว   การแต่งเสริมทางธรรมชาติ เช่นนี้ ย่อมหมายถึงการที่มีการระเบิดของไฟหินอัคนี   แต่ดึกดำบรรพ์หลายวาระ จะเห็นว่ามีดอยบางลูกที่ให้แก้วชนิดมีแสงประกาย   ซึ่งเกิดทั้งรอยร้าว และ   รอยเชื่อมทางธรรมชาติของตนเองระหว่างช่วงที่แข็งตัวแล้วและช่วงที่ละลายคล้ายพฤกษชาติและคราบชีวิตเล็กๆ   พร้อมด้วยแสงสีอันมีแต่สมัยกัปปกัลป์   ดูจะคงสภาพไว้ภายใต้แท่งแก้วหน่อน้อยหน่อใหญ่ที่รักษาคราบนั้นไว้ให้เราดู   และได้รับสิ่งที่ควรเรียกว่าพิพิธภัณฑ์บนนิ้วมือ   สิ่งนี้คือส่วนประกอบขึ้นพร้อมการกำเนิดของหินอัคนี   เหนือขุนดอยโป่งข่ามบริเวณดอยโป่งหลวง อันเป็นศูนย์กลางของที่กำเนิดชื่อโป่งข่าม   หินอัคนีแยงขึ้นในลักษณะทแยงตามแนวลาดของไหล่เขา   จึงมีผู้ขุดพบและตามสายแก้วตามรูปทำเลของผิวดิน   จึงเสมือนหนึ่งมีอำนาจลึกลับดลบันดาลสิ่งที่จะให้แก่ชาวบ้านได้ขุดหน่อแก้วกันอย่างที่ถือว่าโชคดีที่สุดแล้ว   เพราะถ้าแท่งอัคนีดังกล่าวทำมุมไปอีกทางหนึ่งในสมัยเริ่มปะทุใต้ดิน   ใครเล่าจะทำไม?
    
  โดยที่หินแก้วต่างๆของอำเภอเถิน ชาวบ้านเรียก   หินแก้วมิได้เรียกว่าพลอย มีข้อสังเกตประการหนึ่งคือคนทางเหนือจะเรียกแก้วสีแดงว่า   ?พลอยแดง?   เช่นการพบแก้วสีแดงในกรุพระเจดีย์เขตอำเภอฮอดแต่สมัยสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ   เสด็จล่องแก่งผ่านบริเวณดังกล่าวในเขตอำเภอเถินมีหินแก้วสีม่วง (Amethyst Quarts)   อยู่ในเขตตำบลแม่วะ ซึ่งรู้จักกันดีว่า   ?พลอยสีม่วง? ที่พบในภูมิภาคอื่นๆมีคนนิยมมาก แต่พลอยสีม่วงนี้   ไม่มีในบ่อแก้วโป่งข่าม
      
  มีสิ่งแปลกประหลาดมากสำหรับหินแก้วในบ่อแก้วโป่งข่าม มีแร่ทองคำเข้าไปอยู่ด้วย   ซึ่งฝ่ายผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าเป็นไปได้   เพราะกำเนิดแร่ควอตซ์ที่อำเภอเถินอยู่ในอุณหภูมิต่ำที่อาจจะมีแร่ทองคำเข้าไปอยู่ได้   ทั้งนี้ย่อมขึ้นกับการเข้าใจ เพราะสินแร่ต่างๆที่เข้าไปปรากฏในแก้วโป่งข่ามบางอย่าง   เช่นพวกแร่เหล็กปนกำมะถัน ให้สีทองเหมือนกัน มีพวกแร่ ?ไพไรท์?   ที่เข้าไปอยู่บางคนเข้าใจผิด เรียกว่าก้อนทองก็มี   ยังมีพวกปวกต่างๆอันเป็นแร่ที่สามารถเจริญเติบโตได้เมื่อเจ้าของเอามาเลี้ยงกับน้ำ   ถือเป็นเครื่องรางด้วย   บางรายเอาแหวนแก้วโป่งข่ามใส่ตู้เย็นแล้วเห็นการเปลี่ยนแปลงของปวกทั้งสีสันต่างๆ   ที่ดูแผ่โตขึ้นมา แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงในแก้วโป่งข่าม   คือคราบเหลืองๆที่ปรากฏขึ้นตามซอกร้าวของแก้ว อย่างนี้ก็มี....
      
  แก้วโป่งข่ามบางเม็ด มีลายเหมือนลายในก้อนน้ำแข็ง และลายฝ้า   ซึ่งเรียกว่าหมอกมุงเมือง ใช้เป็นเครื่องเสี่ยงทาย หรือเพ่งดูนรกสวรรค์ทางสมาธิ   มีแร่ผลึกสี่เหลี่ยมคือข้าวตอกพระร่วงเข้าไปอยู่ข้างใน หรือพวกแร่โลหะต่างๆ   พวกเส้นเข้าไปอยู่เหมือนเข็ม หรือเหมือนขนแปลง   มีแร่บางชนิดที่ตกผลึกอยู่ในรูปต้นไม้ หรือรูปพุ่มดอกต่างๆ บ้างเป็นกลีบคล้ายหอย   ฯลฯ ในการวิเคราะห์ตัวอย่างแก้วโป่งข่าม มีผู้พบแร่บุษราคัมขาว (Topaz)   แซกอยู่ด้วย
  บ่อแก้วต่างๆในเขตดอยโป่งข่าม ที่นักขุดหาหน่อแก้วนิยมกันคือ   บ่อเด่นยาว บ่อโป่งแพ่ง บ่อโป่งหลวง และบ่อผาแดง
      
  บ่อแก้วผาแดงมีชื่อเสียงในการเป็นแหล่งกำเนิดแก้วน้ำดี เนื้อแกร่งมีเส้นแร่ต่างๆ   ที่เรียกว่าเส้นขนเหล็กขนไหมต่างๆ ทั้งที่ตกเป็นเส้นกอและเส้นพุ่ม   ส่วนบ่อแก้วโป่งหลวมมีชื่อเสียงเกี่ยวกับแก้วสีฟ้า และสีฟ้าแร มีทั้งแก้วใส แก้วขาว   และแก้วหม่นบ่อโป่งแพ่งมีทั้งสีฟ้าอ่อนและเส้นขนเหล็กขนาดเล็กๆ ไม่เกินเส้นผม   บ่อโป่งแพ่งนี้ อยู่ใกล้บ่อโป่งหลวง และมีพวกแก้วปวกต่างๆถึงบ่อเด่นยาว   อยู่ใกล้บ่อโป่งหลวง และมีพวกแก้วปวกต่างๆถึงบ่อเด่นยาว ยังมีบ่อสำคัญอีกบ่อหนึ่ง   คือบ่อห้วยช้างล้วงซึ่งเป็นเขาลูกเดียวกับห้วยออกรูต้นกำเนิดน้ำแม่แก่ง   ให้แก้วชนิดขนยุงแซมไหม หรือเส้นขนเหล็กแบบเส้นพุ่ม   และแก้วแรทีออกสีชาจากแร่เฟลด์สปาร์ ซึ่งเรียกว่ามุกดาหาร (Moon Stone)
    
  มีเรื่องเล่ากันว่า   แก้วประเภทขนยุงแซมไหม ยกให้เป็นแก้วปู่ขัน ซึ่งเป็นลุงแก่ๆ   นักหาหน่อแก้วลวดลายพิเศษซึ่งคนอื่นๆต้องอิจฉา   ต้องสะกดรอยเพื่อค้นหาความลับบ่อแก้วของบ่อปู่ขัน   เรื่องราวในทำนองเดียวกันเกี่ยวกับแก้วสีฟ้า คือเรื่องของย่านวล   หญิงแก่ผู้ค้นพบแก้วสีฟ้า เราจะเห็นว่า ในกรุโบราณต่างๆ มีแก้วชนิดอื่นอยู่มาก   แต่ขาดแก้วสองชนิดนี้ ซึ่งควรถือเป็นของดีที่เพิ่งค้นพบ และมีราคาสูงกว่าพวกตระกูล   ?พลอยแดง? ที่พบในตำบลแม่วะ
    
  การหาหน่อแก้วต่างๆกว่าจะพบหลุมแก้ว   บางรายต้องใช้เวลาเป็นเดือนวิธีปฏิบัติบูชา   บนเจ้าที่เจ้าทางเพื่อให้มีความสวัสดีมีชัยในการค้นหาหน่อแก้ว คือ ตั้งศาลเล็กๆขึ้น   บนด้วยเหล้าไหไก่คู่ บางรายก็ย่อส่วนลงเหลือเพียงไก่ตัวเดียว   มีคำขอและอธิษฐานอย่างง่ายๆตามโวหารแต่ละคน เช่นบางรายว่า
    
  ?ขอแม่ธรณี เจ้าพ่อดอยโป่ง ดอยช้างล้วงและผาแดง   ขอฮื่อข้าได้แก้วงามๆ ฮื่อปอสี่ซ้าห้าปันสักขุมสองขุม ได้แล้วจะบนหัวหมู...   ฯลฯ?
    
  การขอบูชาดังกล่าว มีดอกไม้ธูปเทียน   หลังจากได้แก้วแล้วก็มีการแก้บนด้วยหัวหมูหรืออื่นๆ แล้วแต่ที่บนไว้   แต่เป็นที่เชื่อกันว่า เจ้าพ่อโปรดหัวหมูมาก
    
  แก้ว ๓ กษัตริย์
    
  แก้ว ๓ กษัตริย์   ได้แก่แก้วที่มีกำเนิดสามอย่างในแก้ว เช่นมีแก้วเข้าแร่ หรือร่วมกับแก้วเข้าแก้ว   รวมเป็น ๓ อย่างเรียกตามชื่อสิ่งที่ปรากฏอยู่ เช่น แกวสามกษัตริย์ ปวก กาบ ขนเหล็ก,   แก้วสามกษัตริย์ แก้วเข้าแก้ว กาบ เป๊ก ฯลฯ
    
  แก้วที่มีสี ๓ อย่าง   เคยมีผู้เรียกชื่อแก้วสามกษัตริย์แต่เมื่อมีการค้นพบว่า   มีแก้วชนิดกำเนิดมากอย่างและมีสีสันสวยงาม ๓ อย่าง ได้เช่นกัน   การจัดประกวดแหวนแก้วโป่งข่ามงามเด่น ในงานฉลองปีใหม่และกาชาดลำปาง พ.ศ.๒๕๑๓ ? ๒๕๑๔   คณะกรรมการจัดประกวดได้กำหนดลักษณะแก้วสามกษัตริย์ คือแก้วที่มีกำเนิด ๓   อย่างมิใช่แก้ว ๓ สี
    
  ทรงผลึกของแร่ ?เป๊ก? (Pyrite)
    
  แร่เป๊ก   เป็นแร่ที่ถือเป็นแร่ศักดิ์สิทธิตามคติของชาวเมืองเหนือ เช่นเดียวกับชาวสุโขทัย   ที่เรียกแร่ชนิดนี้ว่าข้าวตอกพระร่วง ออกสีทองหรือสีเขียว   เป็นแร่ไพไรท์ทรงผลึกจัดในระบบไอโซเมตริค หรือระบบลูกเต๋า   ซึ่งอาจจะเป็นทั้งทรงหักเหลี่ยม ปาดมุม   แต่แนวตั้งฉากของเส้นแกนเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส
      
  คนเมืองเหนือเรียกแร่ไพไรท์สี่เหลี่ยมว่า เป๊กหน้าทั่งคือเหมือนทั่งตีเหล็ก อีกชนิดหนึ่ง   ปาดมุมลงเหมือนลักษณะหีบธรรมโบราณ เรียกว่าเป๊กหลังหีบ ผลึกทั้งสองแบบนี้   พบในบ่อแก้วโป่งข่าม มีขนาดจิ๋วตั้งแต่เท่าหัวเข็มหมุดขึ้นมา
      
  ยังมีเป๊กแบบอื่นๆตามตำราโบราณ   ซึ่งยังไม่พบตัวอย่างทรงผลึกที่จะเปรียบเทียบได้จากบ่อแก้วโป่งข่าม   ซึ่งอาจจะค้นพบในโอกาสต่อไป เช่น เป๊กมะหลอด อันเป็นลักษณะคล้ายลูกสมอตามชื่อในตำรา   ฯลฯ
    


  แก้วโป่งข่ามแบบเส้นแร่บนขนเหล็ก   (Hairstone)
    
  เส้นแร่ที่ปรากฏอยู่ในแก้วโป่งข่าม   บริเวณดอยโป่งแพ่งใกล้โป่งข่ามหลวง มักจะเป็นเส้นชนิดเล็กไม่เกินเส้นผม   พบในแบบลายเส้นทแยง และลายเส้นขนหมู เป็นส่วนใหญ่   ในลักษณะสีดำซึ่งเรียกกันว่าเส้นเหล็กและขนเหล็ก   ยังมีเส้นสีทองและสีแก้วซึ่งเป็นแร่ต่างชนิดกับพวกสีดำ
      
  ขุมแก้วที่มีชื่อเกี่ยวกับชนิดเส้นเหล็กตามที่เรียกกันนี้ คือขุมแก้วดอยผาแดง   ซึ่งมีทั้งเส้นเล็กเส้นใหญ่น้ำแก้วแกร่ง มีทั้งเส้นลายแบบขนาน   และเส้นลายแบบเส้นพุ่ม ซึ่งหาได้ยากในขุมแก้วดอยอื่นๆ   ที่หายากอีกแบบหนึ่งคือลายเส้นกระจาย
      
  เส้นเหล็กที่ปรากฏอยู่ในแก้วโป่งข่ามนี้ อยู่ในประเภทแร่รูไทล์ (Rutile)   ธาตุติตาเนียม (Titanium) เป็นแร่ประเภทโลหะซึ่งถือว่าเป็นแร่ที่ราคาแพง   โดยกำเนิดเส้นแร่ดังกล่าวจะปะปนอยู่ในเนื้อแก้วควอตซ์ในรูปเข็มสีดำ   ยังมีอีกพวกหนึ่งเป็นพุ่มดั่งขนมไกวาดหรือขนแปรง คือแร่มิลเลอไรท์ (Millerrite)   นิคเกิลซัลไฟด์ (Nickle Sulfide) ยังมีพวกแท่งแก้ว หรือที่เรียกว่าหลักเงิน   คล้ายผลึกทรงเข็มของพวกซัลโฟ (Sulfo Salt) พวก Boulangerite และ   เส้นแร่ตะกั่วและพลวงชนิด Jasmesonite ก็มี   ยังมีแร่อีกชนิดหนึ่งที่พุ่มเป็นเส้นแบบใบต้นตาลคือพวกแร่ Pseudobrookite   ซึ่งในต่างประเทศพบในเมืองอูต้า พวกช่อพุ่ม หลักพุ่มต่างๆ อาจจะมาจาก Aragonite   อันมีสีขาวและสีสันต่างๆสวยงาม ก็มีอยู่ในแก้วโป่งข่าม
      
  ยังมีแก้วที่มีเส้นแร่ที่พบบ่อยในบ่อแร่อื่นๆ นอกบ่อโป่งข่ามในเขตจังหวัดลำปาง   ซึ่งมีผู้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นบ่อเดียวกัน แต่มีลักษณะไม่สวยงาม   แตกต่างกันจนสังเกตได้ง่าย แก้วที่เป็นเส้นแร่นอกบ่อโป่งข่ามดังกล่าว เท่าที่พบ   อยู่ในประเภทแร่ทัวร์มาลิน ซึ่งแร่ดังกล่าวอยู่ในทรงผลึกเหลี่ยมเส้นตรง   หัวท้ายเท่ากัน แท่งโตบางแท่งก็หยาบ คล้ายท่อนไม้ในลักษณะทะแยง    เนื้อแก้วที่พบนั้นไม่ละเอียดและแข็งเหมือนแก้วโป่งข่าม
    
  เส้นโลหะแบบเข็ม   แร่รูไทล์ ปรากฏในเนื้อแก้วควอตซ์ซึ่งพบในบ่อแก้วโป่งข่ามดอยผาแดง   โดยชื่อที่เรียกกันแพร่หลายว่า ?ขนเหล็ก? ฝรั่งเรียก ?Hairstone?   ฉายาที่ฝรั่งให้คือ Fle?ches d?amour (Arrows of Love) และ Venus?s hairstone
      
  จาก The Quarts Gems บท XII Herbert P.whitlock
    


  แก้วปวก
    
  คำว่าปวกเป็นภาษาเหนือ แปลว่า   ต่อมน้ำหรือฟองน้ำ   ตำนานพระธาตุลำปางกล่าวถึงลักษณะดั้งเดิมของพระธาตุเจ้าลำปางมีสัณฐานดั่งปุ่มปวกน้ำ   คือลักษณะครึ่งวงกลมเช่นผลส้มผ่าครึ่ง ตามแบบพระสถูปอินเดีย   สมัยพระเจ้าอโศกมหาราชซึ่งเผยแพร่พระพุทธศาสนาถึงสุวรรณภูมิ
    
  คำว่าปวก   อันแปลว่าต่อมน้ำหรือฟองน้ำ จึงมีลักษณวิเศษณ์ที่แสดงถึงสิ่งที่มีลักษณะฟูขึ้นมา   แร่ธาตุต่างๆ ที่มีอยู่ในแก้วโป่งข่ามดั่งต้นไม้ ดั่งใบหญ้า ดั่งตะไคร่น้ำ   ดั่งปะการังและสาหร่าย เรียกว่าปวก แร่ที่เรียกว่าปวกใพวกมอสแอกแกท (Moss Agate)   พวกแร่เฮมาไทท์ (Hematite) สีแดง แร่อีปิโดต (Epidote) สีเขียว   และพวกแร่ทองแดงสีเขียว ฯลฯ
    
  ปวกต่างๆประเภทแร่สีและต่อมน้ำแก้วต่างๆ   ทำให้เกิดชื่อปวกสี ปวกแก้วต่างๆปวกแร่สีที่ราบกับก้นแก้ว   เรียกว่าปวกทรายแก้วปวกทรายคำตามสีสันและวาวสี ถ้ามีลักษณะฟูขึ้นมา เรียกว่าปวกปุย   เช่นปวกปุยแล้ว ปวกปุยสีต่างๆ ปวกเครือ ปวกลอย   คราบปวกที่กระจัดกระจายมีสีกระดำกระด่าง คนภาคกลางเรียกกันว่ากาหลง   ปวกกาหลงมใช่ลักษรธแก้วชั้นดีของบ่อแก้วโป่งข่าม   มักจะเป็นของที่มาจากที่อื่น
    

  ลักษณะแก้ว
        
  รัตนแก้วแก่นไท้ ๒๔ ดวง
      
  แก้วหยาดจากฟ้าลงมา ๒๔ ดวง ตกลงมาโขงเขตห้อง จากเทศท้องเมืองอินทร์   คือเพราะมีสีออกนวลใยเหมือนแสงพระจันทร์
คำตำนาน ลำดับชื่อแก้ว
 แก้วมหานิล โชคลักขณาถูกชาตา ๑. แก้วมหานิล
 แก้ววิตูลเลิศแล้ววิเศษ ๒. แก้ววิตูล
 แก้วอุทุมพรจังกรวิเศษ ๓. แก้วอุทุมพรจังกร
 แก้วผักตบเทศมงคล ๔. แก้วผักตบเทศ
 วิตูลฝนแสนห่า ข้าศึกล่าถอยหนี บัวระกฏใสยอดเต้า ๕. วิตูลฝนแสนห่า
 มียศต่อเต้ามูลมา    ๖. มรกต
 สุริยประภาวิเศษ วุฒิเทศนานา ๗. แก้วสุริยะประภา
 แก้วประภาชมชื่น เข้าของตื่นไหลมา ๘. แก้วประภาชมชื่น
 วชิระเป๊กพรหม ๓ หน้า ยศต๋ำฟ้าเหลือหลาย ๙. แก้วพรหมสามหน้า
 วิตูลขนทะลายงามแล้ว วิเศษแก้วบานงาม ๑๐. วิตูลขนทะลาย
 แก้วปทัมราคบานซื่นช้อย ค่าควรร้อยคำแดง ๑๑. แก้วปัทมราค (ทับทิม)
 จันทะแป๋ง ค่าหมื่น ๑๒. แก้วจันทระ
 แก้วสุริยคราสชื่นคำปากยำ ๑๓. แก้วสุริยะ
 มหานิลทรายคำกินบ่เสี้ยง เหล็กขี้เมี้ยงเกิดเป็นคำ แก้วพระยาอินทร์ไอศวรยิงผาบโลก แสนโศกอว่ายหัวลง ๑๔. แก้วมหานิลทรายคำกินบ่เสี้ยง
 วิตูลองค์วิเศษ ขนบ้งเทศไหมสน ๑๕. วิตูลขนบ้งซอนไหม
 ก้อแดงผาบแป้ ข้าศึกล่าหนีไกล๋ ๑๖. แก้วก้อ (ทับทิม)
 แก้วสีปะลีใสสะอาด ข่ามหน้าไม้นาคเป๋นขจวน ๑๗. แก้วสีปะลี
 ปทัมก่านมวนวิเศษ ๑๘. แก้วปัทมราคลาย
 วิตูลเทศสุขเกษม วิตูลดีผิวเผือก ๑๙. วิตูลเผือก
 น้ำค้างเกิดปล๋ายเขา ๒๐. นิลน้ำค้าง
 รัตนเลาเลิศแล้ว เรียกชื่อแก้วหมอกมุงเมือง ๒๑. แก้วหมอกมุงเมือง
 ฤทธิ์เรืองเลิศล้ำ น้ำผึ้งเป็นดี เนรกัณฐี ๒๒. แก้วเนรกัณฐี
 มธุระกัณฐีใสบ่เศร้า ยอดต่อเต้าผาบชมพู ๒๓. แก้วมธุรกัณฐี
อินทนิลแก้วเผือกงามผ่านแผ้ว๒๔.  แก้วอินทนิล

ลักษณะเป๊ก
        
ระบบทรงผลึกแร่ ?เป๊ก?   ๖  
  ๑.    เป๊กข่ายพันชั้น ระบบสี่เหลี่ยม มีเหลี่ยมจดกันชุด้าน (เป๊กหลังหีบ)   วรรณะดั่งเหล็ก-ทองคำ
  ๒.    เป๊กหน้าทั่ง ระบบสี่เหลี่ยมลูกเต๋า   หรือคล้ายทั่งตีเหล็ก วรรณะดั่งหล็ก-ทองคำ
  ๓.    เป๊กมะหลอด ระบบคล้ายลูกสมอ   วรรณะแดงดั่งน้ำห้าง หรือน้ำราก
  ๔.    เป๊กซูมน้ำคำ ระบบปุ่มรอบตัวเอง   วรรณะดั่งเหล็ก-ทองคำ
  ๕.    เป๊กมะบ้าผีแป๋ง ระบบลูกสบ้า   วรรณะน้ำตาลอมดำ
  ๖.    เป๊กแมงเหนียงงำรัง ระบบคล้างตัวแมลงปีกแข็ง   วรรณะน้ำตาลดำ
  เป๊กที่ออกสีมุก เรียกว่าเป๊กมุกดา   แต่ไม่ปรากฏลักษณะทรงผลึกฝนตำนาน ทรงผลึกแร่ต่างๆ ที่จะเรียกเป๊ก   มักจะเป็นผลึกแร่โตนเสมอ จึงจะเรียกว่าเป๊ก
  
  ลักษณะแก้วแสงวิชรเป๊กและลำดับคุณค่าอัตราซื้อขายในสมัยโบราณ
  
  หมวดแก้วปทัมราค (แก้วปทัมราค)
  -      ปทัมราค สุวรรณมณีคำ วรรณะดั่งคำย้อม (วาวทอง) มีองคะดั่งแมงเหนี่ยง ทำรัง   ค่าเหลือคณา
  -    ปทัมราค มีวรรณะดั่งมะม่วงสุก มีพื้นสระ ค่าห้าพันคำ
  -      ปทัมราค มีวรรณะดั่งน้ำราก (น้ำสนิมแดงโคลน) ค่าห้าพันคำ
  -    ปทัมราค   มีวรรณะดั่งน้ำขมิ้น (เหลืองทอง) ค่าห้าพันคำ
  -    ปทัมราค มีวรรณะดั่งพริกสุก   (เหลืองอมส้ม) ค่าสี่พันคำ
  -    ปทัมราค มีวรรณะดั่งชมพู่   ค่าร้อยเงิน
  
  หมวดแก้วปทัมก่าน   (ปทัมราคสหชาติ)
  -    สัตตรัตนปทัมก่าน วรรณะแดง มีไหมขาว-เขียว   ปักหม่นสนเกี้ยวกันอยู่เต็มแก้ว ค่าเหลือคณา
  -    ปทัมก่าน น้ำแดงหัว น้ำดำกลาง   น้ำเขียวขาวหาง ค่าหมื่นคำ
  -    ปทัมก่าน น้ำเขียวหัว น้ำดำกลาง น้ำเหลืองหาง   ค่าพันคำ
  -    ปทัมก่าน มีเส้นแดงหัว เส้นแดงกลาง แก้วสามเส้นอยู่หาง   ค่าพันคำ
  
  หมวดแก้วก้อ   (ทับทิม)
  -    แก้วก้อวิเศษมีฤทธิเหลือคณา คือแก้วก้อดิบ วรรณะขาวเหลือง   มีสร้อยในแก้วดังบอกไฟ(บั้ง)หรือไฟผางปะตีป(ประทีบถ้วย)นั้นไหลไปมา   ค่าเหลือคณา
  -    แก้วก้อเท่าเม็ดชมพู่ แดงดั่งอาทิตย์ รัศมีรุ้ง ๑๒ ขา   ค่าเหลือคณา
  -    แก้วก้อมีฤทธิ์ ๘๐๐ วา เม็ดเท่าลูกปู
  -    แก้วก้อมีฤทธิ์   ๖๐๐ วา เม็ดเท่าถั่วน้อย (ถั่วแขก)
  -    แก้วก้อมีฤทธิ์ ๓๐๐ วา เม็ดเท่าถั่ว   มีเปลวพุ่งขึ้นบน
  -    แก้วก้อมีฤทธิ์ปราบ ๒๐๐ วา เม็ดเท่าหอมป้อม (เม็ดผักชี)   ค่าร้อยคำ
  -    แก้วก้อมีฤทธิ์ปราบ ๑๐๐ วา แดงอย่างหางและเลือดไก่ดิบ   มีองคะแกมอ้อยดำ ค่าร้อยเงิน
  
  หมวดแก้วมรกต
  -    มังคละจุฬามณี   วรรณะดั่งน้ำผึ้ง ในแก้วมีรูปสี่เหลี่ยมรูปพระเจ้า รูปเจดีย์ รูปไม้ศรี (ต้นโพธิ์)   รูปนกยูง รูปนกเขียน หงส์ ช้าง ราชสีห์ รถ เกวียน อยู่ข้างใน ค่าเหลือคณา
  -      มหาธุรกัณฐี วรรณะดั่งดอกหวายแห้ง แก้วน้ำผึ้งมีธนูคำกำปุ้ง ๖ ขา ค่าแสนคำ
  -      มรกตยอดเต้า วรรณะดั่งยอดเต้า ค่าแสนคำ
  -    มรกตผิวไผ่ วรรณะดั่งผิวไผ่   ค่าแสนคำ
  -    มรกตบ่อน้ำตาล วรรณะเขียวดั่งใบหอม มีกำปุ้งงำกลางไหลไปมา   ค่าแสนคำ
  -    มรกตผิวหวาย วรรณะดั่งหวายแห้ง ค่าแปดหมื่นคำ
  -      มรกตสิ้วหัวเป็ด วรรณะสิ้ว (สีสิ้วคือสีเขียวหัวเป็ด) เวลาใช้เงินแถบ (เหรียญเงิน)   ขูดมีขุยแดง คือ ดั่งขูดทองแดง ค่าหมื่นคำ
  -    มรกตปีแมงภู่ วรรณะดั่งปีแมงภู่   ค่าหกพันคำ
  -    ปรไมยไอศวร ทรงผลึกกลมดั่งหมากซัก (ลูกซัก) วรรณะดั่งน้ำจริง   ค่าแปดหมื่นเงิน
  -    มรกตดอกจังกร วรรณะดั่งดอกจังกร ค่าหกพันเงิน
  -      มรกตสีแววคอนกยูง วรรณะดั่งแววคอนกยูง ค่าพันคำ
  -    มรกตเนรกัณฐี   วรรณะดำดั่งรักมีแสงรัศมี แสด ขาว หม่นกาบอ้อยมีขากำปุ้ง
  -    มรกตนาควิตูล   วรรณะดั่งน้ำรัก มีหมักคำออก ดั่งหมากน้ำเหลืองกลางแก้ว
  
  หมวดแก้วมหานิล
  -      แก้วมหานิลปทัมราค วรรณะดำ ในแก้วเป็นน้ำปทัมราคแดงดั่งบอกไฟผางประทีป   ค่าเหลือคณา
  -    มหานิลไข่กา วรรณะดั่งสีเปลือกไข่กา ค่าแสนคำ
  -      มหาอินทนิล วรรณะดั่งแววคอนกยูง ค่าแสนคำ
  -    มหานิลโภคำ   วรรณะแดงแสดเกี้ยวขึ้นลูกแก้ว ค่าแสนคำ
  -    มหานิลทรายคำ   มีหมัดทรายคำอยู่ในแก้ว
  -    มหานิลสีหมากซัก วรรณะดั่งลูกซัก ค่าพันคำ
  -      มหานิลเลือดไก่ วรรณะดั่งเลือดไก่ ค่าสี่พันเงิน
  -    มหานิลนกกระจาบ   วรรณะดั่งนกกระจาบ รัศมีส่องใน ค่าพันเงิน
  -    มหานิลน้ำทับ   วรรณะดำดั่งลูกหมากซัก ค่าพันเงิน
  -    มหานิลสีดอกผักตบ วรรณะดั่งดอกผักตบ   ค่าพันเงิน
  
  หมวดแก้ววิตูล
  -    วิตูลเทศไข่ฟ้า   วรรณะดั่งประภาชมชื่น มีเงาป้านกลางดั่งเมฆขึ้นอากาศ   มีลักษณะดั่งไข่นกจันทร์มีผิวจุ่มไว้ด้วยเหมย (น้ำค้าง)จับอยู่ ค่าเหลือคณา
  -      วิตูลน้ำผึ้ง วรรณะดั่งน้ำผึ้ง ค่าแสนคำ
  -    วิตูลประกาย มีแสงดั่งดาวประกาย   ค่าแสนคำ
  -    วิตูลปทัมก่าน วรรณะดั่งน้ำผึ้งไหมแสดแดง   แสดเหลืองผ่านในดั่งน้ำไหล ค่าแสนคำ
  -    วิตูลน้ำตาล วรรณะดั่งน้ำตาล   ค่าสี่พันคำ
  -    วิตูลเทศฟองสมุทร มีน้ำไหลในดั่งแมงเหนี่ยงทำรัง   ค่าพันคำ
  -    วิตูลดอกธารบุษ วรรณะดั่งดอกธารบุษ ค่าพันคำ
  -      วิตูลปุมเป้งปา วรรณะดั่งดอกปุมเป้งปา ค่าพันคำ
  -    วิตูลเทศดอกพุทธ   วรรณะดั่งดอกพุทธรักษา ค่าห้าพันเงิน
  -    วิตูลขนทะลาย วรรณะขาวเหลือง   ขนซ้อนกันเยื้อไปมา ค่าห้าพันเงิน
  -    วิตูลฝนแสนห่า วรรณะดั่งดอกคำ   มีขนซ้อนขึ้น ค่าสี่พันเงิน
  -    วิตูลขนบ้ง วรรณะเขี้ยวก็มี เหลืองก็มี   มีขนในแก้ว ค่าพันเงิน
  -    วิตูลน้ำหาย วรรณะใสดั่งต่อมน้ำ ค่าพันเงิน
  -      วิตูลน้ำค้าง วรรณะดั่งน้ำค้างชายคา ค่าพันเงิน
  
  หมวดแก้วประภา (แก้วประพาฬ)
  -      แก้วประภา วรรณะดั่งดอกอ้อ(มันสมอง)จระเข้ ค่าแสนคำ
  -    แก้วประภา   วรรณะดั่งดอกมะม่วงสุก ค่าสี่พันคำ
  -    แก้วประภา วรรณะดั่งแก่นตานกยูง   ค่าสี่พันคำ
  -    แก้วประภา วรรณะดั่งหอยสังข์ ค่าพันคำ
  -    แก้วประภาชมชื่น   นอนหลับตื่นลุกถิน วรรณะดั่งข้าวเปลือกแช่น้ำผิวเหลือง ค่าพันคำ
  -      แก้วจิรประภา วรรณะดั่งน้ำข้าวมวก(น้ำซาวข้าว) ไหมพานกลางแก้ว ค่าพันคำ
  -      ประภาเมฆมุงเมือง มีควันฝ้าอยู่ในแก้ว ค่าพันคำ
  -    ประภาน้ำครั่ง   มีวรรณะดั่งน้ำครั่ง ค่าพันคำ
  -    สร้อยประภา(สุริยประภา)   มีวรรณะแดงดั่งดวงตะวัน ค่าพันคำ
  -    จันทรประภา มีวรรณะขาวเหลือง ดั่งดอกบัว   ค่าสามพันเงิน
  
  แก้วเผือก
  -      แก้วเผือกวชิรเป๊กพรหม ๓ หน้า วรรณะสาม คือ ขาว ? เหลือง ? เขียว   ค่าห้าพันคำ
  -    แก้วเผือกวรรณะดั่งหอยสังข์ มีเหลี่ยมสิบสองเหลี่ยม   ค่าพันคำ
  -    แก้วเผือกวรรณะดั่งดอกตาเหิน(เขียวอ่อนดั่งใบข่า)   ค่าพันคำ
  -    แก้วเผือกวรณะดั่งเขาไกรลาศ เหลี่ยมร้อยเหลี่ยม   ค่าหมื่นเงิน
  -    แก้วเผือกคำคาย ขาวดั่งเงินดอกไหมคำคาย ค่าหมื่นเงิน
  -      แก้วเผือกวรรณะดั่งต่อมน้ำจริง มีแสดขาวเกี้ยวขึ้นไปต้องหน้าแก้ว   ค่าสามพันเงิน
  -    แก้วเผือกวรรณะดั่งปลายเขายุคันธร มีองคะกลมดั่งลูกซัก   ค่าพันเงิน
  
  อัปมงคลว่าด้วยการถือสี
  แก้ววิตูลลูกใด   สีดั่งไฟแห้มไหม้ (ไฟไหม้เกรียม) ไม่เป็นมงคลกับผู้ถือ จัดเป็นโทษารัตนา
  มงคลและอัปมงคลว่าด้วยการได้แก้ว
  แก้วลูกใด      เมื่อต่อซื้อขายกัน ได้ยินข่าวว่าเสียของ   หรือด่ากันแก้วลูกนั้นมงคลแล
  แก้วลูกใด    ขณะเมื่อจะซื้อต่อรองราคากัน   เมื่อใดยินข่าวมีคนตกน้ำตายในขณะที่เกี่ยงราคากันอยู่ จะมีมูลค่าเท่าไหร่   ควรเอาไว้แล จะเป็นแก้วมงคลเจริญยิ่ง
  แก้วลูกใด    เมื่อกำลังต่อซื้อขายกันอยู่   มีคนเอาของหวานมาให้รับประทาน แก้วลูกนั้นได้มาก็จะเป็นมงคล   มีทรัพย์สินข้างม้าตามมาแล
  แก้วลูกใด    ซื้อขายกันแล้ว ได้แก้วนั้นมา   มีคนเอาเงินและทรัพย์สินมาให้ มงคลแล
  แก้วลูกใด    ขณะเมื่อต่อรองซื้อขายกัน   มีศพผ่านหน้าเราจักเป็นมงคลบริสุทธิ์นักแล
  แก้วลูกใด    เมื่อได้มาแล้ว   นอนฝันเห็นศพเน่าพุพอง มงคลโชคชัยยิ่งนักแล
  แก้วลูกใด    เมื่อได้มาแล้ว   ฝันเห็นบ่อน้ำก็ดี สระน้ำก็ดี ใสงาม แก้วนั้นย่อมเป็นมงคล   ชุ่มเย็นนักแล
  แก้วลูกใด    เมื่อได้มาแล้ว ฝันเห็นฟักทอง ฟักเขียว   กลิ้งเข้าประตูเรือน ดีนักแล
  แก้วลูกใด    ขณะเมื่อซื้อต่อรองกัน   มีคนตาบอดเข้ามา อย่าเอาดีกว่า เพราะจะวินาศฉิบหายแล
  แก้วลูกใด      ขณะเมื่อซื้อต่อรองกัน มีคนสวมเสื้อแดงทัดดอกไม้เข้ามา ลางไม่ดี   จะเสียของตนแล
  แก้วลูกใด    ขณะเมื่อซื้อต่อรองกันอยู่   มีคนเอาของส้มมาให้รับประทาน ลางไม่ดีจะเสียลูกและเมีย
  แก้วลูกใด      ขณะเมื่อซื้อต่อรองกันอยู่ มีคนเอาเหล้ามาให้กินลางมิดีแล
  แก้วลูกใด      เมื่อได้มาแล้ว มีคนชวนไปที่ไหน พึงปฏิเสธในวันที่ได้แก้วนั้น   หาไม่จะเป็นพยาธิแล
  แก้วลูกใด    เมื่อได้มาแล้ว มีจิตโกรธ ลางไม่ดี   จะเจ็บป่วยเดือดร้อนแล
  แก้วลูกใด    เมื่อได้มาแล้ว ฝันเห็นไฟ   จะเสื่อมเดชแล
  ลักษณะความเชื่อ   เกี่ยวกับอย่างไหน   ใช้ทางใด
  ความเชื่อถือและความนิยมเกี่ยวกับแก้วโป่งข่ามแบบต่างๆ   มีผู้นิยมเชื่อถือตามประสบการณ์และความเชื่อถือเก่าๆดังนี้
  การอยู่ยงคงกระพัน
  -    แก้วสีฟ้า   (บ่อแก้วโป่งข่ามหลวง คือ บ่อแก้วสีฟ้า และแก้วแร แก้วใส)
  -    แก้วปวกเขียว   และปวกสีต่างๆ
  -    แก้วขนเหล็ก ขนไหม
  -    แก้วขาว
  -    แก้วเข้าเป๊ก   (บ่อแก้วดอยเขาควาย)
  -    ขนเหล็กน้ำตัน ฯลฯ
  การมีอำนาจชนะฝ่ายตรงข้าม
  -    แก้วเส้นต่างๆ   (บ่อเด่นยาว)
  -    แก้วฝนแสนห่า
  การมีเมตตามหานิยม
  -    แก้วสีฟ้าแร
  -      แก้วเนื้อลำไย
  -    แก้วปวกเขียว ปวกสีต่างๆ
  -    แก้วกาบ
  -    วิตูลต่างๆ   (บ่อหนามเหี้ยง) รวมทั้งแก้วหินทราย แก้วหินสีต่างๆ
  การมีฤทธิ์ คลาดแคล้ว และความสำเร็จ
  -      ได้แก่ แก้วปวกเขียว ซึ่งประวัติเรื่องราวมากที่สุด
  การมีโชค และเป็นแม่แก้วต่างๆ
  -      แก้วเข้าแก้วจากหน่อแม่ และหน่อโตน
  -      แก้วเข้าเป๊ก
  แม่แก้วหมายถึงแก้วที่ชอบมีบริเวณพ่วงตามมา เช่น เมื่อมีแก้ว ๑   แล้วมักจะได้ของดีตามติดกันมาอีก ผู้คนมีคาถาอาคมปลุกเสก ทดลองโดยเอาแก้ว ๑ อธิษฐาน   แก้วที่มีลักษณะเป็นแม่เหนือกว่า จะหันหัวเข้าไปหาแก้ว ๒ ที่เป็นลูก
    
การมีโชค ลาภลอย  
  -    แก้วแร
  -      แก้วเนื้อลำไย
  การมียศ
  -      แก้วกาบ
  -    แก้วสุริยประภา (วิตูลหนามเหี้ยง แดงเพลิง)
  ความชุ่มเย็น กันไฟ
  -    แก้วน้ำหาย
  -      แก้วเข้าแก้ว
  -    แก้วใสขาวต่างๆ
  -    แก้วเข้าสลัก รูปต่างๆ
  ความอยู่เย็นเป็นสุข
  -    แก้วปวก
  -      แก้วกาบ
  -    แก้ววิตูลสีน้ำตันต่างๆ
  ความผจญภัย
  -    แก้วขนเหล็ก   น้ำใสและน้ำตันต่างๆ
  -    แก้วเข้าเป๊ก
  ความมีชื่อเสียง อำนาจวาสนา   ดีในการเดินทางและแสดงโชคลาง
  -    แก้วสีฟ้า
  -      แก้วหมอกมุงเมือง
  -    แก้วปวก ๓ สี
  * แก้วสีฟ้า และปวกสี   เมื่อจะมีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลง สีซีดลงมักมีข่าว หรืออยู่ในระยะกังวลใจ   แก้วหมอกมุงเมือง เวลามันวาวมักมีโชคดีในการเดินทาง
  ร่ำรวย มั่นคง
  -    แก้วสามกษัตริย์
  -      แก้วเข้าแก้ว
  -    แก้วประภาชมชื่น
  -    แก้วเข้าหลักเงิน หลักคำ
  -      แก้วกินบ่เสี้ยง
  -    แก้วทรายคำ ? หมัดคำ
  ยศตำแหน่ง
  -    แก้วพรหมสามหน้า
  -      แก้วกาบ
  -    แก้วสุริยประภา
  -    แก้วสลัก
  -    แก้วปวกต่างๆ   ที่มีปรากฏการณ์เติบโตได้
  อาจจะมีแก้วชนิดอื่นๆ ที่มีคุณค่าต่างกันออกไป   โดยผู้ใช้ต้องอาศัยประสบการณ์ และสังเกตดูการต้องโฉลกในการใช้ เพราะการใช้แก้วนั้น   เราจะทราบทันทีกับเหตุการณ์ที่ได้แก้วนั้นมาในระยะที่เริ่มใช้    ตำรวจชอบแก้วปวกเขียว พ่อค้าชอบปวกเขียว ข้าราชการชอบปวกสีและสีฟ้า   ทหารชอบขนเหล็กน้ำตัน และขนเหล็กน้ำใส หนุ่มสาวชอบวิตูลต่างๆ   พ่อค้าอาจจะไม่สู้ชอบขนเหล็กเท่าตำรวจ   ทหารที่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับโชคชัยในการต่อสู้   แต่มิใช่โชคชัยในการค้าขาย
  มนุษย์เรามีความเชื่อถือในพลังลี้ลับของแก้ว   แต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ แก้วนิลสีน้ำตาลในพิพิธภัณฑ์ปารีสถือว่าเคยเป็นแก้วอัญมณี   เครื่องโชคลางแห่งสก๊อตแลนด์ มีการสืบทอดแก้วที่ถือเป็นโชคลาง ระหว่างพระเจ้าชาร์ล   เลอมัง จนถึงพระเจ้านโปเลียน จนกระทั่งถึงพระเจ้าหลุยส์นโปเลียนที่ ๓ 
  แก้วโป่งข่ามยังมีคุณในแก้วต่างชนิด   จากประสบการณ์ต่งๆตามลักษณะความเชื่อถือที่แตกต่างกันออกไป

Star of David

Star of David
 
 

? หมายถึง เพศชาย ร่างกาย ความเข้มแข็ง
? หมายถึง เพศหญิง จิตใจ ความอ่อนโยน ความสงบ

? + ?           =                     ความสมดุล
ความหมายของ  ?   ทั้งสองนี้  ?            หนึ่ง  หมายถึง ร่างกาย (Body)
                                        ?            สอง หมายถึง จิตใจ, จิตวิญญาณ (Soul)

 เมื่อ ? นี้วางซ้อนกันอย่างสมดุล หมายถึง ร่างกายและจิตใจ อยู่ร่วมกันอย่างสมดุล นั่นคือ สุขภาพที่ดีและจิตใจที่แจ่มใส

 Star of David ได้ถูกนำไปใช้ในความหมายอื่นอีกเช่นกัน สำหรับวงการหินก็นำมาใช้ในความหมายของความสมดุลของร่างกายและจิตใจ เราจะได้พบ Crystal และหินสีต่าง ๆ นำมาเจียระไนเป็นรูป  Star of David ซึ่งนำมาเป็นจี้ห้อยคอเป็นส่วนมาก ด้วยเชื่อว่า พลังของหินจะสามารถสร้างความสมดุลในตัวเราได้ดี นอกจากนี้เรายังนำมาใช้ในการตั้งโปรแกรมหินด้วย

 ตั้งโปรแกรมมีหลายวิธีด้วยกัน การตั้งโปรแกรมหิน เราตั้งขึ้นมาด้วยความเชื่อมั่นในพลังของหิน เพื่อขอให้พลังของหินช่วยเหลือสิ่งที่อธิษฐานขอให้บังเกิดขึ้นจริง โดยเรื่องที่อธิษฐานขอจะต้องเป็นเรื่องที่มีเปอร์เซนต์ของความเป็นไปได้อยู่ด้วย มิใช่การอธิษฐานขอในเรื่องที่ไม่มีความเป็นไปได้เลย

การตั้งโปรแกรมหินบนฐานหิน Star of David
 เป็นวิธีสากลวิธีหนึ่งที่นิยมกันมาก การตั้งโปรแกรมแต่ละเรื่องเราอาจจะเลือกใช้หิน ที่มีความหมายตามเรื่องที่เราต้องการ เช่น
 โปรแกรมความรัก Rose Quartz หินสีชมพู
 โปรแกรมเรื่องเงิน Rutilate, Pyrite หินไหมทอง, ไพไรท์
 โปรแกรมเรื่องสมาธิ Amethyst หินสีม่วง
โปรแกรมเรื่องงาน Tiger?s eye หินคดไม่สัก, ตาเสือ (ที่ต้องใช้กำลังกายและกำลังใจมากๆ)

 หินที่จะนำมาใช้ จะเป็นหินทรงอะไรก็ได้ ทรงแท่ง ทรงกลม หินธรรมชาติ หินที่จะวางตรงกลางฐาน Star of David มีมีขนาดใหญ่หรือสูงกว่าหินที่จะวางตาม
 ?        2 รูป ทั้งสอง 1 เท่าตัว
 หินที่จะวางบน ?  ทั้งสอง  6  ชิ้น (ขนาดครึ่งหนึ่งของหินตรงกลางฐาน)

วิธีตั้งโปรแกรม
1. เราจะวางชิ้นใหญ่ก่อนตรงกลาง
2. เราจะเห็น  ? ที่ซ้อนกันอยู่ เราจะวางหินตามรูป ? ทีละรูป

? ที่หนึ่งเราจะวางหินไว้ที่ปลายก่อน คือ ที่  1

ขั้นที่ ? 2 วางตรงเบอร์ 2
ขั้นที่ ? 3 วางตรงเบอร์ 3
เราจะได้ตำแหน่งหิน เป็นรูป ? ที่ 1






      ขั้นที่ ? 2 วางตรงเบอร์ 2
      ขั้นที่ ? 3 วางตรงเบอร์ 3
      เราจะได้ตำแหน่งหิน เป็นรูป ? ที่ 2




4.  การอธิษฐาน จะอธิษฐานครั้งละ 1 เรื่องเท่านั้น พร้อมทั้งขอเวลาเพื่อความสำเร็จเราจะย้ำคำอธิฐานทุก ๆ วันก็ยิ่งดี เมื่ออธิษฐานได้บรรลุผลแล้วจะนำหินไปล้างน้ำแล้วค่อยนำมาตั้งโปรแกรมใหม่

5.  เมื่อวางหินเสร็จแล้ว เราใช้มือซ้าย วางเหนือโปรแกรม เพื่อตั้งจิตอธิษฐานด้วยจิตที่สงบ แล้วกล่าวคำอธิษฐานของคุณ พร้อมทั้งขอบคุณด้วย ที่คำอธิษฐานนี้จะบังเกิดเป็นความจริงหรือ คุณอาจจะเขียนคำอธิษฐานบนกระดาษ แล้วนำกระดาษนี้ไปวางตรงกลางก็ได้

คุณสงสัยว่าจะเป็นไปได้หรือในเรื่อง Program อธิษฐานนี้พวกเราที่ชอบหินทำกันบ่อยแล้ว ผลที่ได้มาจึงค่อนข้างบังเกิดขึ้นตามคำอธิษฐานเสมอ ศรัทธา ความเชื่อมั่นที่มีมาก ๆ ทำให้คำอธิษฐานนั้นเป็นไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ !

          

พลังบวกและพลังลบในหิน

พลังบวกและพลังลบในหิน
 
 

พลังบวก    (Positive)
พลังลบ      (Negative)


เมื่ออยู่ในกลุ่มคนที่ชอบเรื่องพลังของหิน ข้าพเจ้ามักจะได้ยินเขาพูดกันเสมอถึงพลัง Positive พลัง Negative ฟังดูก็รู้เพียงว่า พลัง Positive เป็นพลังดี พลัง Negative เป็นพลังไม่ดี จะดีไม่ดีอย่างไร ก็ไม่เคยทราบรายละเอียดมากไปกว่านี้เพราะดูทุกคนจะเข้าใจกันหมด คงมีแต่ข้าพเจ้าที่ไม่ทราบมากนัก เลยไม่กล้าถามใครจนกระทั่งพบหนุ่มน้อยคนหนึ่งที่คลุกคลีกับหินมานาน มีอัธยาศัยที่น่ารักมากพูดถึงพลังบวก พลังลบ เลยขอให้อธิบายให้ฟังถึงความหมายว่า ดี ไม่ดีอย่างไร ก็ได้ความว่าพลังที่สัมผัสได้จาก



หินมีได้หลายลักษณะ ดังนี้
- พลังอุ่น ๆ
- พลังร้อน
- พลังเย็น
- พลังเหมือนไอน้ำแข็งบาง ๆ
- พลังที่แผ่ซ่านไปทั่วฝ่ามือ
- พลังหมุนเวียน เป็นเหมือนวงกลม
- พลังเป็นคลื่น ๆ
- พลังที่เหมือนสูงขึ้นสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ
- พลังที่พุ่งขึ้นมาแรง ๆ
- พลังเบา ๆ สบาย  ๆ
- พลังที่ส่งออกมาเป็นจังหวะ จังหวะที่เท่ากัน
พลังเหล่านี้เกิดจากความถี่ในสนามแม่เหล็กของหินแต่ละก้อน พลังที่สัมผัสได้อาจเป็นพลังบวกหรือลบ แล้วแต่ความรู้สึกของผู้สัมผัส

พลังบวก   คือ  ความรู้สึกที่สัมผัสแล้วรู้สึกสบาย อยากสัมผัสพลังนี้ไปนาน ๆ มีความรู้สึกสดชื่น               สบายใจ แจ่มใส หรือมีสมาธิ
พลังลบ     คือ  ความรู้สึกที่สัมผัสแล้ว ไม่อยากสัมผัสอีกต่อไป อาจจะรู้สึกอึดอัดไม่สบายในความรู้สึก อยากอาเจียน มึน ศีรษะ
ถ้าเป็นคนที่อยู่ในสภาพ  Positive     จะมีอารมณ์ในลักษณะต่อไปนี้ มีอารมณ์ที่ดีมีจิตใจโอบ อ้อมอารี มีความสุข มีความสงบ มองโลกในแง่ดีเสมอ ร่าเริง มีสมาธิ
ถ้าเป็นคนที่อยู่ในสภาพ Negative     จะมีอารมณ์ในลักษณะต่อไปนี้ มีอารมณ์ไม่ค่อยดี  อารมณ์ร้อน โกรธง่าย ใจร้าย โศกเศร้า อิจฉา สับสน มองโลกในแง่ร้ายเสมอ ขาดสมาธิ
นี่คือ..........ความคิด ความรู้สึก ของ Positive (+) และ Negative (-)
                                                                      

พลังหินกับพลังของมนุษย์

พลังหินกับพลังของมนุษย์

มีท่านผู้รู้ได้กล่าวไว้ว่า : มนุษย์เปรียบเหมือนจุดศูนย์รวมของแม่เหล็ก ซึ่งจะดูดซับสิ่งต่าง ๆ เข้าตัวเราอยู่ตลอดเวลารวมทั้งกระแสไฟฟ้าที่เป็นขั้ว + และขั้ว ? อยู่ในตัวQuartz, หิน, อัญมณี ทั้งหลายก็มีพลังในตัวมันเองโดยธรรมชาติเป็นผู้สร้างสรรให้กับหิน



ถ้า.......เมื่อท่านสามารถกำหนดทำให้จิตของท่านนิ่งได้ท่านจะสามารถต่อเชื่อมกับพลังของหินได้ ท่านจะได้รับประโยชน์จากพลังหินบวกกับพลังในตัวของท่านเองได้อย่างมหาศาล สุดท้ายแต่ ท่านจะนำพลังนั้นมาใช้ในเรื่องใด?






ถ้าท่านฝึกฝนมาดีมีสมาธิจิตนิ่งสงบ เชื่อว่าท่านจะสามารถต่อเชื่อมกับมิติอื่น ๆ ได้ท่านอาจจะได้พบจินตภาพที่มนุษย์สามัญทั่วไปไม่สามารถทำได้ดั่งเช่นท่าน ขึ้นอยู่กับตัวท่านจะฝึกฝนละเรียนรู้ได้มากน้อยเพียงใด


พลังหินบำบัดโดยใช้หินสี

คริสตัลใส..........................ช่วยรักษาได้เวลาที่ปวดศีรษะมาก?
 
 

 ฉันมีโอกาสได้เรียนรู้ เรื่องการใช้หินพลังบำบัด โดยใช้หินสี 7 ตามจุดจักระทั้ง 7 เมื่อยามร่างกายบกพร่อง หินสีตามจักระสามารถช่วยเหลือได้ โดยวางหินไว้ตามจักระที่บกพร่อง หายใจลึก ๆ ใช้สมาธิ นึกถึงสีและพลังหินเข้าไป ช่วยฟื้นฟูสภาพ

 จักร   1     จุดศูนย์กลางที่อยู่ล่างสุดของกระดูกสันหลัง
                          ใช้หินสี  แดง ? เรด แจสเปอร์       

          
จักร    2     เหนือบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์จุดศูนย์กลางม้าม
                      ใช้หินสีส้ม ? คาเลียน                                       

จักร   3     กลางหลังบริเวณเหนือไต กลุ่มช่องท้อง
                        ใช้หินสีเหลือง ? ซิทริน                

จักร    4     อยู่ระหว่างกระดูกสะบัก แนวเดียวกับหัวใจ
               ใช้หินสีเขียว, ชมพู ? กรีนอาเวนเจอรีน,            


 โรสคว๊อซ์   





      จักร   5      ศูนย์กลางลำคอ
                         ใช้หินสีฟ้า ? เทอร์ควอยส์         

      จักร    6     ศูนย์กลางหน้าผาก  ระหว่างคิ้วทั้งสอง
                          ใช้หินสีน้ำเงิน ? โซดาไลต์

      จักร     7      ศูนย์กลางต่อมพิทูอิเทอรี่ อยู่ในศีรษะ
                            ใช้หินสีม่วง, ขาว ? อเมทิสต์, คริสตัลใส
 ช่วงเวลาที่เราเรียนรู้ ดิฉันเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง มีความสนใจและอยากรู้เท่านั้นเพราะเรื่องการใช้พลังหินบำบัดต้องอาศัยหลายอย่าง อย่างแรก คือความเชื่อ ศรัทธา (มาก) การทำสมาธิ ความละเอียดอ่อนของจิต เมตตาจิตและจิตใจที่ดีอยู่เสมอ (เหล่านี้คือสิ่งที่มีอยู่แล้วในตัวเรา) ในกลุ่มที่เรียนด้วยกันเราก็ได้คุยกันมากในเรื่องนี้ หลายความคิดแล้วแต่ใครมีประสบการณ์ได้ผลสำเร็จ หรือไม่สำเร็จ แต่ส่วนใหญ่เราจะพบว่า โรคที่ต้องได้รับการผ่าตัด การใช้ยามักจะไม่หาย ต้องไปรักษาที่ โรงพยาบาล ส่วนโรคที่เป็นความเครียดหรือโรคที่เป็นเล็กน้อย มักจะหายได้ จะพบว่าหลายคนจะประสบความสำเร็จในการบำบัด วันหนึ่งดิฉันปวดศีรษะมาก ๆ นอนอยู่คนเดียวที่บ้านก็ไม่มียาจะออกไปซื้อเองก็ไม่ไหว นอนทรมานสักพัก ก็เห็นแท่งคริสตัลใสบนโต๊ะ เลยนึกถึงเรื่องที่เคยเรียนว่าหินใสขาว จะช่วยส่วนบนศีรษะได้ ก็ไม่มีอะไรจะพึ่งได้นอกจากคริสตัลแท่งนี้ เลยหยิบมากำไว้ในมือแล้วพูดกับแท่งคริสตัลว่า ?ฉันเคยเรียนว่า หินใสขาวจะช่วยรักษาส่วนบนศีรษะได้ ช่วยแสดงพลังบำบัดให้ฉันได้พบ ได้เชื่อสักครั้งว่า คริสตัลทำได้จริง ช่วยรักษาฉันด้วยเถิด ฉันจะขอบคุณมากถ้าช่วยรักษาฉัน? แล้วก็เอาแท่งคริสตัลนาบไปทั่วศีรษะยู่หลายรอบ ไม่นานนักความปวดก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง ดิฉันดีใจมากที่หายปวดหัว ดิฉันได้แต่พูด ?ขอบคุณมากคริสตัล? ไม่รู้ว่ากี่ครั้ง ขณะนั้นดิฉันดีใจมากที่มีหมอเป็นคริสตัลอยู่ด้วยจริง ๆ แล้วดิฉันอยากจะเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังว่า ถ้าปวดศีรษะมาก ๆ คริสตัลจะช่วยได้ เพราะดิฉันได้มีประสบการณ์นี้มาแล้ว แต่ดิฉันไม่กล้าเอาแท่งคริสตัลนี้ไปช่วยใคร เพราะกลัวว่าหมอคริสตัลของดิฉันไม่ทำงาน ดิฉันจะถูกล้อเลียนมากมายเป็นแน่ ดิฉันไม่อยากเป็นคนไม่ปกติในหมู่เพื่อนฝูงเพราะคงไม่มีใครเชื่อ


เพื่อนดิฉันคนหนึ่งบอกว่า อาจจะเป็นเพราะดิฉันเรียนเรื่องการใช้พลังจิตใต้สำนึกที่ดิฉันหายอาจเป็นเพราะพลังจิตใต้สำนึกที่ทำงานพร้อมกับแท่งคริสตัล จึงทำให้เกิดพลังงานในการรักษาได้อย่างเต็มที่ ดิฉันมีความเชื่ออยู่บ้างใน 2 เรื่องนี้ อย่างน้อยก็ 1 ครั้ง จากประสบการณ์ตรงที่ได้จากแท่งคริสตัลในการบำบัด อาการปวดศีรษะอย่างแรงดิฉันได้มีโอกาสพบในสิ่งที่น้อยคนจะมีโอกาสได้พบ ดิฉันคิดว่าอาจจะได้พบกับเหตุการณ์อย่างนี้อีกก็ได้ ดิฉันรู้ว่าพลังเรื่องหินบำบัดมีทั้งคนเชื่อและไม่เชื่อ ก็ไม่น่าแปลกใจอะไรนัก เพราะคนเราย่อมไม่เชื่อในสิ่งที่เราไม่เคยประสบด้วยตนเอง คนที่ไม่เชื่อ ดิฉันขอบอกว่าทุกคนเป็นคนปกติ ส่วนคนที่เชื่อคุณก็เป็นคนปกติ เพราะคุณมีโอกาสพบประสบการณ์แปลก ๆ กว่าคนอื่น ทำให้มีใจกว้างรับได้มากกว่า

20120909

สร้อยคอ สร้อยข้อมือ กำไล จี้ ต่างหู จากหินชนิดต่างๆ - Gemstone

 มณีใต้น้ำ หรือ เพชรพญานาค


 ทับทิม
 หยก
หยก
กระดูกช้าง

 หยก
หยก


ลงยา


หินขาว

ฮก ลก ซิ่ว




หยก ห้าสี




มณีใต้น้ำ



นิล


บุษราคัม

ทับทิม

หยก


ไพลิน




ทับทิม





หยกห้าสีกับงานลงยา




นิล


ไหมทอง





ไหมห้าสี








อเมทิส














ทรายทอง



มุกภูเก็ต








แก้วขนเหล็ก


โรสควอส




ไทเกอร์อาย หรือ หินตาเสือ




























































อาเกต
















สร้อยคอเม็ดอิตาลี 3มิติ 2กษัติรย์ มีให้เลือกระหว่าง ยาว 18นิ้ว หรือยาว 24 นิ้วสวมคอได้ งานแบบร้านเพชรร้านทอง ชุบเศษทองคำแท้ และเงินแท้ ตัดลายเม็ดมะยมวิ้งๆ งานสวย ปราณีต พร้อมถุงกำมะหยี่

Inspire Jewelry สร้อยคอเม็ดอิตาลี 3มิติ 2กษัติรย์ มีให้เลือกระหว่าง ยาว 18นิ้ว หรือยาว 24 นิ้วสวมคอได้ งานแบบร้านเพชรร้านทอง ชุบเศษทองคำแท...