ทองไมครอนคืออะไร

เครื่องประดับทองไมครอน คือ เครื่องประดับที่ตัวเรือนไม่ได้ทำมาจากทองคำ แต่นำไปผ่านกระบวนการชุบทองคำแท้หุ้มติดบนพื้นผิวของตัวเรือน ทำให้พื้นผิวของตัวเรือนมีสีและคุณสมบัติ เป็นทองคำ แต่เนื่องจาก ตัวเรือนมิได้ทำมาจากทองคำ เครื่องประดับทองไมครอนจึงมีสภาพหมองไปตามกาลเวลา ซึ่งความทนทานของเครื่องประดับไมครอนนั้นจะขึ้นอยู่กับความหนาของทองคำในการชุบแตกต่างกันไปตาม ค่าไมครอน ยิ่ง ค่าไมครอนสูง เครื่องประดับก็ จะยิ่งทนทาน อายุการใช้งานยาวนานมากขึ้น

ทำไมต้องหนา 5 ไมครอน

ไมครอน คือหน่วยวัดปริมาณความหนาของพื้นผิวทองที่ชุบ สำหรับการชุบไมครอนในงานเครื่องประดับที่เป็นที่นิยม มีตั้งแต่ หนึ่ง สาม และ ห้าไมครอน ยิ่งค่าตัวเลขมีมาก ปริมาณความหนาของทองก็มากขึ้นไปด้วย หากจำนวนเลขไมครอนต่ำ หมายถึงปริมาณพื้นผิวของทองที่หุ้มเครื่องประดับอยู่นั้นบาง ทำให้เครื่องประดับมีอายุการใช้งานสั้น สีหมองคล้ำ ดำ บางชิ้นถ้าชุบไม่ดีอาจหลุดลอก ติดตามผิวหนังได้ ในท้องตลาดปัจจุบัน 5 ไมครอนเป็นความหนาที่หนาที่สุด ทนทานมีคุณภาพ และเหมาะสมที่สุดในการผลิตเครื่องประดับทองไมครอน

ข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับเครื่องประดับทองไมครอน

ระยะเวลาการใช้งานของเครื่องประดับทองไมครอน นอกจากขึ้นอยู่กับความหนาของทองที่ชุบแล้ว ยังขึ้นอยู่กับสภาพความเป็นกรดด่างในเหงื่อของผู้สวมใส่ ชีวิตประจำวัน และการดูแลรักษา ซึ่งในคนที่มีเหงื่อเค็ม เครื่องประดับก็หมองเร็วกว่า จึงเป็นการอยากที่จะระบุชัดเจนถึงอายุการใช้งานในแต่ละคน

การใช้งานและดูแลรักษา เครื่องประดับทองไมครอน

สำหรับคนที่ไม่ได้ใส่เป็นประจำ หลังจากสวมใส่แล้ว แนะนำให้ล้างเครื่องประดับด้วยน้ำสะอาดเพื่อชำระล้างคราบเหงื่อและฝุ่นละออง จากนั้นซับให้แห้งก่อนเก็บรักษาทุกครั้ง
สำหรับคนที่สวมใส่เป็นประจำ แนะนำให้สวมใส่ขณะอาบน้ำเพื่อเป็นการชำระล้างเครื่องประดับไปในตัว

วิธีการดูแลรักษาเครื่องประดับประเภททองไมครอน การดูแลรักษาเครื่องประดับประเภททองไมครอนนะคะ 

- ควรถอดเครื่องประดับก่อนล้างมือ หรือ ก่อนอาบน้ำ 

- ควรหลีกเลี่ยงอย่าให้เครื่องประดับสัมผัสกับสเปรย์ น้ำหอมน้ำมะนาวหรือสารเคมีอื่นๆ 

- เมื่อจะถอดเก็บควรใช้น้ำยาล้างจานล้างก็พอแล้วค่ะ เพราะสารในน้ำยาล้างจานจะช่วยให้เครื่องประดับดูแวววาว 

**ไม่ควรใช้น้ำสบู่ล้างนะคะ เพราะ สบู่จะมีส่วนผสมของไขมันค่ะ จากนั้นใช้ผ้าอ่อนนุ่มเช็ดให้แห้งก่อนเก็บค่ะ 

- หลีกเลี่ยงการขูดขีดกับของมีคมต่างๆ 

-การเก็บรักษาควรใส่กล่องที่ไม่มีอากาศเข้า หรือใส่ถุงซิบแยกชิ้นต่อชิ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียดสีกันเอง

***เครื่องประดับจะสวยงาม และคงทนอยู่เสมอหากมีการเก็บและดูแลรักษาที่ดี **

ทองไมครอน หมายถึงทองที่ชุบด้วยไฟฟ้า หนา ตามจำนวนไมครอน (หนึ่งส่วนล้านเมตร) เช่น3ไมครอน 5ไมครอน 

ทองหุ้ม หมายถึง วัตถุหรื่อเครื่องประดับใดๆ ที่ผิวภายนอกเป็นทอง ข้างในไม่ใช่ เป็นการหุ้ม อาจหุ้มด้วยกระบวนการ ตีแผ่นหุ้ม หรื่อชุบด้วยไฟฟ้าก็ได้

ทองชุบ คือชิ้นงานที่ชุบทองด้วยไฟฟ้า จะหนาบางเท่าไร ไม่บอกไว้ไม่เหมือนพวกไมครอน จะบอกความหนา

Producing what?

Microns of gold jewelry is jewelry made ​​of gold is not the case. The gold plating process to coat the surface of the body. The surface of the body color and features a gold, but the body is not made ​​of gold.Micron has the gold become dull over time. The durability of the jewelry, um, it depends on the thickness of gold plating varies according to the micron to the micron high jewelry is more durable over the long more I have to face 5 microns.
microns were measured. the thickness of the gold-plated surface. For micron-plated jewelry is a popular one, three and five microns are much better value. The thickness of the gold, it's more. If the number of low micron. The amount that covers the surface of the gold jewelry and then some. The jewelry is to use a dull black color, some may fade if not plated.To the skin. In the current market is 5 microns thick, the thickest. Durable quality. And the best manufacturing information you should know about gold micron micron gold jewelry.
of gold at the micron. In addition, depending on the thickness of gold plating it. Also depends on the pH of sweat of the wearer. Everyday life And care. In the salty sweat. It happens faster than jewelry. It is not clear that the lifetime of the individual to use and maintain. Microns of gold jewelry.
for those who do not put on a regular basis. After wearing it. To clean the jewelry with warm water to wash the sweat stains and dust. Of the liner to dry before storing all the time 
for people to wear on a regular basis. Recommended to wear jewelry while bathing to cleanse the body. 
or is it simply the gold jewelry is covered. Process to remove the gold dissolved in a water-soluble gold compound on Ang. Liquid Gold or 24K.Metals such as brass or copper clad steel standard, manufacturers will not use anything metal. To help turn your bath water to 1 micron thick coating of gold is immersed for 6 minutes to 10 microns for 60 minutes, which was quickly immersed in the gold particles are coated by a layer of immersion time. The thickness of gold is determined by the fire's light in order to analyze the thickness of the gold as thick as you like or not, and :::.

gold filled หรือ gold plated คืออะไร

ความรู้ เล็กๆ น้อยๆ สำหรับผู้เริ่มสะสม  vintage watch ว่าด้วยเรื่องของ ทอง  ที่ทำตัวเรือนนาฬิกา ทั้งหลาย             การทำตัวเรือน นาฬิกา โดยเฉพาะ นาฬิกาสะสม ร่วมสมัย (vintage watch) ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อ ที่เราๆ ท่านๆ คุ้นเคยกัน เช่น Bulova,Elgin,Benrus,gruen,Waltham,Movado หรือ Omega เป็นต้น                 เพื่อให้นาฬิกา มีความสวยงาม ทรงคุณค่า อีกทั้งยังเป็นเครื่องประดับ เช่นเดียวกับ จิววารี่อื่นๆ ไม่ใช้แค่เป็นเครื่องบอกเวลาเท่านั้น  ดังนั้น จึงนิยมนำทองคำ มาเป็นส่วนประกอบอย่างหนึ่งในกระบวนการผลิต นอกเหนือจาก สิ่งมีค่าอื่นๆ เช่น เพชร พลอย หรือทับทิมเป็นต้น                 ทองที่ใช้ในการทำนาฬิกา ที่เราเห็นเขียนว่า ทองเค นั้น ก็คือทองคำแท้ๆ แต่มีส่วนผสมของโลหะอื่น ที่มีค่า ผสมลงไปด้วย เพื่อวัตถุประสงค์หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรืองของต้นทุน ความสวยงาม ความเหมาะสม หรืออื่นๆ อีกมากมาย  วันนี้เรามาแบ่งปันความรู้เรื่องทองที่ใช้ทำนาฬิกากันดีกว่า                 ทองคำแท้ๆ มีเปอร์เซ็นต์ของทอง ที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก คือ ทอง 100% เท่ากับ 24 K แต่ที่จริงแล้วทอง 100% หรือความจริงแล้วแค่ 99.99% ไม่สามารถเอามาทำตัวเรือนได้ เพราะทองคำมีความอ่อนมากเกินไป  จึงจำต้องนำโลหะมีค่าอย่างอื่นมาผสม เพื่อให้เกิดความแข็งแรง เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า และความสวยงาม ฉะนั้น ที่เราเห็น มีการเขียนที่ตัวเรือนนาฬิกา ว่า ทอง 10K หมายถึง มีส่วนผสมของทองคำ โดยประมาณ 41.67 % ทอง 14K หมายถึง มีส่วนผสมของทองคำ โดยประมาณ 58.34 % ทอง 18K หมายถึง มีส่วนผสมของทองคำ โดยประมาณ 75.00 % ดังที่ปรากฏ ในนาฬิกาชั้นนำ ที่จะสลัก บอกปริมาณ ค่าเค ไว้ที่ด้านหลังตัวเรือนนาฬิกา หรือฝาหลังนั้นเอง โดยเฉพาะถ้านาฬิกาเรือนไหน ใช้ค่าทองถึง 18K เราจะเห็นได้ว่า ราคาจะค่อนข้างสูงเป็นพิเศษ                 เรื่องของทองนาฬิกายังไม่หมดเพียงแค่นี้ ราคานาฬิกายังขึ้นอยู่กับ ส่วนผสมของทองอีก ว่า ใช้ส่วนผสมแบบไหน เพื่อทำใหเกิดสีของทองที่แตกต่างออกไป อย่างสวยงาม เช่น  yellow gold ( yg ) คือทองออกสีเหลือง  พบเห็นได้ทั่วไปใน vintage watch pink gold ( pg ) คือทองออกสีชมพู ( มีส่วนผสมของ  ทองแดงมากกว่า yg ) จะมีราคาสูงกว่า YG แม้ค่า เค จะเท่ากัน rose gold ( rg ) คือทองออกสีกุกลาบ ออกแดง ๆ อีกเช่นกัน จะมีราคาสูงกว่า PG แม้ค่า เค จะเท่ากัน  ทั้งหมดนี้ขึ้นกับเทคนิคการผสมโลหะ ทั้งชนิดและสัดส่วนครับ และสุดท้ายคือ solid gold หมายถึง ทองทั้งแท่ง หรือทั้งชิ้น ตัน ๆ  ทั้งตัวเรือนทำขึ้นจากทองคำทั้งแท่ง ซึ่งมีให้เห็นไม่บ่อยนั้น (ยอมรับว่า ผู้เขียนเองก็ยังไม่เคยเห็นเช่นกัน) white gold (wg) คือทองขาว จะออกสีเงิน มีความเงางาม มาก จะมีราคาสูงเช่นกัน และที่พิเศษที่สุด ของเครื่องประดับ หรือแม้แต่นาฬิกา ที่จะทำให้มีค่าตัวสูงมากขึ้นไปอีก คือ ตัวเรือนที่ทำด้วย Platinum  หรือทองคำขาวนั้นเอง (เรืองทองขาว กับทองคำขาวนี้ ผู้คนยังเข้าใจผิดกันอยู่มาก โดยส่วนมากมักคิดว่าเป็นอย่างเดียวกัน แท้ทีจริงต่างกันพอสมควร ฝรั่งเขาถึงเรียกต่างกัน แต่บ้านเราเรียกปะปนกันจนแยกไม่ออก ) ขออธิบายแบบเอาเป็นความรู้เล็กๆ ติดตัวกันหน่อย คือทองขาว หรือที่เรียก white gold ก็คือทองคำแท้ๆ ที่เรารู้จักกันดี มาผสมกับโลหะสีเงิน เช่นเงิน และแพลาเดียม ก็จะทำให้ทองสีเหลืองที่เราคุ้นเคยกลายเป็นสีขาว ส่วนค่า เค ก็ขึ้นอยู่กับส่วนผสม  ส่วนทองคำขาว หรือที่เรียกว่า Platinum นั้น คือ โลหะทองคำสีขาวเลย หรือแร่ธาตุสีขาวบริสุทธิ์ (เป็นมาตั้งแต่เกิด ไม่ได้ผสมกับแร่ธาตุอื่นใด) และหายากมาก พบได้ปริมาณน้อยมาก เปรียบเทียบกับทองคำธรรมดา หากปริมาณเท่ากัน ทองคำขาวจะหนักกว่ามาก ราคาของทองคำขาวจึงสูงกว่าทองคำแท้ๆ 2-3 เท่าตัวเลยที่เดียว ส่วนมากมักนิยมนำมาทำเครื่องมือแพทย์ หรือเครื่องประดับราคาสูงๆ เป็นต้น ยังมีอีกนิด ที่นักเล่นมือใหม่ หรือแม้แต่มือเก๋า ยังมีความเข้าใจผิดกันอยู่มาก คือคำว่า gold filled (GF) และgold plated ( GP )  ที่จริงแล้ว การที่จะเป็น filled หรือ plated  นั้นก็คือ ขบวนการผลิต ในขั้นตอน การห่อหุ้มตัวเรือนนาฬิกา ด้วยทองคำ ทั้งคู่  หรือในภาษานักสะสมนาฬิกา เรียกว่า ทองหุ้ม นั้นเอง  (แต่ส่วนมากมักเข้าใจว่ากันว่า gold plated คือทองหุ้ม และgold filled คือการกะหลั่ยทอง หรือชุบนั้นเอง  ซึ่งที่จริงแล้ว ทองชุบ หรือกะหลั่ยทอง น่าจะเป็นเรื่องของกรรมวิธี การชุบทองคำด้วยไฟฟ้า ที่ฝรั่งเขาเรียกกันว่า electrogoldplate ซึ่งก็พบเห็นได้บ่อย ในนาฬิกา และมักจะเขียนไว้ที่ตัวเรือนนาฬิกามากกว่าที่ฝาหลัง                 แล้ว gold filled กับ gold plated มันต่างกันอย่างไร และอย่างไหนดีกว่ากัน  อันนี้ขอเขียนตามประสบการณ์ นะว่าไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ที่แน่ๆ ใส่นาฬิกา ที่ เคลือบตัวเรือนด้วยทองคำจะดีตรงที่ไม่ลอก ไม่ดำ ทำความสะอาจง่าย สวยงาม ดีแน่นอน                 Gold filled คือ กระบวนการผลิต โดยการ filled เป็นทองที่มีลักษณะห่อตัวเรือนนาฬิกา โดยผ่านขบวนการเคลือบ , ห่อ ด้วยความร้อน และภายใต้ แรงดัน  อันเป็นเทคนิคมาแต่โบราณ หรือที่นิยมเรียกกันว่า เอาแผ่นทองบางๆ มารีดสวมทับไปบนตัวเรือนสแตนเลส  นาฬิกาที่เป็น gold filled สังเกตได้ง่ายว่า ส่วนมาก มัก ทำทั้งตัวเรือน และที่ฝาหลังด้วย เพื่อป้องกัน การสึกหรอจากการสัมผัส โดยตรง กับผู้สวมใส่ และยังมักนิยมทำใน เครื่องประดับอื่นๆ เช่น แหวน สร้อยคอ เป็นต้น                 Gold plated คือกระบวนการผลิต โดยการเคลือบแผ่นทองคำด้วยกระบวนการทางไฟฟ้า  อันเป็นวิธีสมัยใหม่ๆ ทำได้รวดเร็ว และประหยัดเวลากว่า  สังเกตได้ง่ายว่าในนาฬิกาที่เป็น gold plated จะทำเฉพาะตัวเรือน ส่วนฝาหลังจะคงเป็นสแตนเลส เสียส่วนใหญ่                 ฉะนั้นหากถามว่า แล้วแบบไหน ทนกว่ากัน ก็น่าจะเป็นตัวบอกได้ว่า gold filled น่าจะมีความคงทนกว่า gold plated (เป็นความเห็น และประสบการณ์ส่วนตัวนะ) เพราะเคยมีนาฬิกาอยู่เรือนหนึ่ง ยี่ห้อBenrus ตัวเรือนทรงกลม ปี 1960 ตัวเรือน เป็นทองชุบแบบ   electrogoldplate  20 mc (ไมครอน)  แต่ที่ฝาหลังจะเป็น gold filled 10K  เพราะฝาหลังต้องสัมผัสกับเราตลอดเวลา ใส่มาหลายปี ยังเหมือนเดิมทุกประการ