The Arts and Action: ศิลปะการปิดทองคำเปลว/ขั้นตอนการปิดทองพระ

The Arts and Action: ศิลปะการปิดทองคำเปลว/ขั้นตอนการปิดทองพระ Click Here!

ศิลปะการปิดทอง เป็นศิลปะที่ถือกันว่าสุดยอดของการสร้างสรรค์

ศิลปินได้นำทองคำแท้ๆ มาตีแผ่จนบางเฉียบ แล้วปิดที่

องค์พระปฏิมา..

ดูมีคุณค่า และงดงาม อร่ามเรือง

     ณ. ปัจจุบันการปิดทองได้ขยายวงกว้างออกไปมิรู้จบสิ้น

กลายมาเป็นอาชีพ กลายเป็นอุตสาหกรรมการส่งออก

ศิลปะวิชาครูโบราณนี้...

ยังหล่อเลี้ยงสังคมไทยไปอีกยาวนาน

เรามาเรียนรู้เรื่องราวของการปิดทองกันเถิด

เพื่อผดุงวิชาไว้ เพื่อลูกหลาน สืบไป.....

การปิดทองคำเปลวลงบนองค์พระ

(หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ)

          วัสดุอุปกรณ์

          ๑.สีสเปรย์ สีเทา และสีดำ

          ๒.สีโป๊วแห้งเร็วสีแดง

          ๓.สี Flex สีเหลือง

          ๔.กระดาษทรายเบอร์ละเอียด

          ๕.แปรงสีฟัน

          ๖.บัตรเติมเงินที่ไม่ใช้แล้วหรือแผ่นพลาสติก

          ๗.พู่กันเขียนสีน้ำ

          ๘.แผ่นทองคำเปลวแท้

การปิดทองคำเปลวลงบนวัสดุต่างๆ ทั้งที่เป็นเหล็ก ไม้ พลาสติก ฯลฯ เป็นการปิดที่ไม่ยุ่งยากแต่ประการใด ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าไม่ยุ่งยากแล้วจะออกมาดี การปิดทองคำเปลวเป็นอาชีพที่ทำรายได้ให้มากสำหรับคนที่ปิดทองคำเปลว ประสบการณ์เป็นเรื่องสำคัญดังนั้นการปิดทองคำเปลวลงบนวัตถุใดๆ ก็ตามต้องหมั่นทำบ่อยๆ และต้องสังเกตลักษณะทองคำเปลวที่แท้ เวลาที่พอเหมาะแก่การปิดทองคำเปลว หรือกระทั่ง ขนาดวัตถุกับเวลาทีต้องแบ่งกันให้ลงตัว

            - สำหรับการปิดทองคำเปลวพระนี้ ในขั้นตอนแรก ต้องนำองค์พระมาล้างทำความสะอาดผงฝุ่นเสียก่อน เช็ดให้แห้ง ตากแดด จากนั้นนำสีสเปรย์สีเทามาพ่นให้ทั่วองค์พระ

            - สาเหตุที่ใช้สีเทาเพราะจะได้มองเห็นร่องรอยพื้นผิวที่ขรุขระ สีเทาเป็นสีที่ไม่หลอกตา แม้กระทั่งช่างซ่อมรถยนต์ก็ใช้สีเทาพ่นรองพื้นก่อนลงสีโป๊วสีแดง

           - ทิ้งไว้ 1ชั่วโมงจนแห้งสนิท นำองค์พระไปขัดกระดาษทรายเบอร์ละเอียด เพื่อจะได้เห็นร่องรอยที่มีตำหนิ

           - ใช้สีโป๊วรถยนต์สีแดงแห้งเร็วโป๊วตรงรอยที่มีตำหนินั้นๆ จนทั่วทุกจุด ทิ้งไว้จนแห้ง ใช้กระดาษทรายเบอร์ละเอียดขัดอีกครั้งจนเรียบลื่นขั้นตอนนี้สำคัญมาก หากร่องรอยไม่เรียบงานออกมา ก็จะฟ้องในตัวเอง ในขั้นตอนปิดทองคำเปลวเสร็จแล้ว ซึ่งจะแก้ไขไม่ได้เลย              

- ต่อไปล้างเช็ดให้สะอาดทิ้งไว้ให้แห้งสนิท พ่นสีสเปรย์สีเทาทับอีกครั้ง

-  เมื่อสีเทาแห้งสนิทดีแล้ว ให้พ่นสเปรย์สีดำทับอีกครั้ง ทิ้งไว้จนแห้งสนิท

- นำพู่กันกลมแตะสีแฟกซ์สีเหลือง ระบายแบบกระทุ้งให้ทั่วองค์พระ ระวังหากจุ่มระบายแบบเปียกๆ ชุ่มๆ จะทำให้สีหนาเป็นก้อนยากสำหรับการปิดทองคำเปลว จากนั้นปล่อยให้สีแห้ง แต่ไม่ถึงกับแห้งสนิท โดยกะประมาณ ๓-๔ ชั่วโมง ลองใช้หลังมือตรงข้อนิ้วแตะที่สีดู หากหนึบแบบแห้งๆ ก็เริ่มปิดทองได้ ทองจะสุกปลั่ง หากหนืดๆ ดึงมือออกคล้ายกับมีอะไรดูด ยังปิดทองคำเปลวไม่ได้ ปิดไปทองก็จมไม่แวววาว

- เมื่อได้จังหวะก็เริ่มปิดทอง ต้องแบ่งจังหวะให้ดี คือจับทองคำเปลวมาครั้งละ ๑ แผ่น แล้วกะดูว่าส่วนใดมีขนาดที่กว้างพอดีแผ่น เช่น หน้าอก แผ่นหลัง ปิดต่อไปจนทั่วองค์พระ อย่าหยุดพักเดี๋ยวสีแห้งปิดไม่ทัน

- การปิดให้ปิดแบบซ้อนทับชายกันเหมือนกับลายรดน้ำ (จะพูดถึงในข้อต่อไป) ปิดเสร็จใช้นิ้วกวดให้เรียบสนิททั้งหมด ถ้าส่วนใดมีตามดหลงเหลืออยู่ให้แตะเศษทองคำเปลวไปปิดก่อนที่สีจะแห้ง

          - ในส่วนที่นิ้วเข้าไปไม่ถึง ให้ใช้พู่กันที่ขนนุ่มๆ มาแตะเศษทองแล้วไปเกลี่ยในส่วนที่เป็นร่องเล็กๆ แล้วเก็บงาน โดยการปัดเบาๆ บนองค์พระทั้งองค์ จนเสร็จ จะสุกปลั่ง วาววาบ ดูมีบารมีมากขึ้น

ปิดทองคำเสร็จสมบูรณ์

การปิดทองเครื่องทรง

การปิดทองหัวโขน

วิธีการปิดทองเหรียญองค์พระจตุคามรามเทพ

อุปกรณ์ ๑. พู่กัน ๒. แผ่นทองคำเปลว ๓. ยางมะเดื่อ หรือสีเฟลกซ์สีเหลือง

----------------------------------------------------

ขั้นตอน

การปิดทองคล้ายกับขั้นตอนที่กล่าวมา เพียงแต่จะไม่ใช้ยางรัก หรือ สีเฟลกซ์สีดำ ในการทา

๑. เตรียมองค์พระ หรือพระเหรียญ พระผง ที่ต้องการจะปิดทองคำเปลว

๒. ใช้พู่กันป้ายสีเฟลกซ์ ระบายลงบนองค์พระที่นูนออกมา หรือตามที่ต้องการ เช่น ระบายส่วนเครื่องทรง

๓. ทิ้งไว้สักพัก ลองใช้นิ้วแตะดูพอหนึบๆ นำทองคำเปลวมาปิดทั่วส่วนที่ทาสีไว้

๔. ใช้พู่กันปัดส่วนที่ปิดทอง เพื่อให้ทองเรียบ

หางช้างกับความเชื่อ

ช้าง เป็นสัตว์มงคล คู่บ้านคู่เมือง ตำนานในทางศาสนาทั้งพุทธและพราหมณ์ ต่างมีความเกี่ยวพันกับช้างตลอดช้างที่ทรงฤทธิ์ในเทววิทยามีอาทิ ช้างเอราวัณ

หางช้างเป็นสิ่งบ่งบอกคชลักษณ์ของช้าง ช้างที่มีสุขภาพดีจะแกว่งหางและหูตลอดเวลา

     หางช้าง ถือเป็น"เครื่องราง"แต่โบราณที่เชื่อว่าช่วยป้องกันอาถรรพ์ ปัดเป่าเสนียดจัญไร ผู้คนที่รู้ซึ้งถึงศาสตร์นี้จะแสวงหาหางช้างมาเป็นเครื่องรางประจำกาย เดินทางไปแห่งหนตำบลใดก็ปลอดภัยจากคุณไสย์มนต์ดำ

     กำไรหางช้างชุดนี้ เป็นหางช้าง(อาฟริกัน)สามเส้นถักด้วยเงื่อนมงคล เป็น"กำไร"(ไม่มีขาดทุน มงคลนาม ) ขยับปรับขนาดเล็กใหญ่ได้ และได้รับการประจุเพิ่มพลานุภาพด้วยมนต์พิธีโดยพระอาจารย์วชิโรภิกขุ แห่งสำนักฯตาดโตน ชัยภูมิ ซึ่งเป็นเกจิผู้ทรงวิทยาคุณขมังเวทย์ผู้ศึกษาศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์ ไทย ลาว เขมร มาโดยตลอด 

"โอบอุ้ม"โชว์เครื่องลางประจําตัว"แหวนหางช้าง"ป้องกันคุณไสย  - 4 มีค. 2554 [4054 Views]

วัฒน์ธิดา ชุมสาย ณ อยุธยา  คุณไสย  เครื่องลาง

ถึงจะเป็นสาวสมัยใหม่ แต่งตัวเปรี้ยวจี๊ด แต่ใครจะรู้ว่าไฮโซสาว        "โอบอุ้ม-วัฒน์ธิดา ชุมสาย ณ อยุธยา" มีความเชื่อในเรื่องลี้ลับ ไสยศาสตร์ด้วย ถึงขนาดพกแหวนหางช้าง ซึ่งมีสรรพคุณป้องกันคุณไสย ติดตัวไว้ตลอดเวลา "เครื่องลางที่อุ้มพกติดตัวไว้ตลอดเวลา เป็นแหวนหางช้างค่ะ ซึ่งคนในครอบครัวอุ้มใส่กันหมด เพราะมีความเชื่อว่าช่วยป้องกันสิ่งไม่ดี อย่างพวกไสยศาสตร์ได้ บวกกับที่บ้านอุ้มก็ทําธุรกิจค่อนข้างเยอะ ก็จะมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ซึ่งถ้าคนจะมาปองร้ายทางกฎหมาย เราแก้ไขได้อยู่แล้ว แต่ถ้ามาทางไม่ดีก็ควรป้องกันไว้ดีกว่า ใส่แหวนไว้ก็ทําให้เราอุ่นใจขึ้นเยอะ เป็นเครื่องประดับชิ้นหนึ่งที่อุ้มใส่ติดตัวตลอดเวลา ..จริงๆ แล้ว เมื่อก่อนอุ้มไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ แต่ตลอดเวลามักจะมีคนมาทักอุ้มแปลกๆ ประมาณว่ามีวิญญาณเดินตามก็มี ฟังแล้วเราก็ไม่ถึงกับลบหลู่อะไร เพราะบางอย่างที่เขามาทักมันก็มีเรื่องที่ตรงจนน่าตกใจ แต่เรื่องที่ทําให้อุ้มอึ้งสุดๆ จะเป็นตอนที่ได้เหล็กไหลมาใหม่ๆ ด้วยความที่เราไม่เชื่อ ก็จะไม่ได้ไหว้ ไม่ได้นับถืออะไร จนกระทั่งอุ้มฝันเหมือนกันแทบทุกคืนว่า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ในบ้านแล้วทําไมไม่เคารพ อุ้มก็เลยลองบูชาดู ปรากฏว่าอุ้มก็ไม่ฝันแบบนั้นอีกเลย และที่สําคัญยิ่งบูชาเหล็กไหลก็ยิ่งใหญ่ขึ้น และเปลี่ยนสีด้วย ตอนนี้อุ้มบูชาไว้ในรถด้วย เพราะมีสรรพคุณช่วยในเรื่องอยู่ยงคงกระพัน ..จะว่าไปแล้วพวกเครื่องลางของขลังต่างๆ อุ้มไม่อยากพูดว่าช่วยเราได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะอยู่ที่ความเชื่อของแต่ละคนมากกว่า แต่สําหรับอุ้มขอเลือกทําอะไรที่ทําแล้วสบายใจไว้ก่อนค่ะ" ♦ "นัท" โต้ "อั้ม" ให้กำไลแทนใจ รับดูแลฝ่ายชายตอนป่วย ปัดรับงานคู่อ้างไม่พร้อม "นัท" เผย "อั้ม" ให้กำไลหางช้างจากอินเดีย ปัดเป็นของขวัญแทนใจ ไม่รู้ใส่ลายเหมือนฝ่ายชาย รับดูแลพระเอกหนุ่มตอนไม่สบาย อ้างไปไหนกับเพื่อนก็ต้องดูแลอยู่แล้ว แจงสัมพันธ์ยังเหมือนเดิม ส่วนการรับงานคู่มีติดต่อมา แต่ยังไม่พร้อมรับ ความสัมพันธ์ค่อยๆคืบหน้าไปอย่างช้าๆ หลังพระเอกปากแดง "อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์" ยอมเปิดปากกำลังศึกษาม่ายสาว "นัท มีเรีย เบเนเดตตี้" อยู่คนเดียว และไม่นานมานี้ทั้งคู่เพิ่งจะควงกันไปร่วมทริปทำบุญที่ประเทศอินเดีย โดยยอมรับได้ซื้อกำไลหางช้างให้ฝ่ายหญิง และรู้สึกเป็นปลื้มที่นักร้องสาวคอยดูแลอย่างดี ตอนที่ไม่สบาย ล่าสุดผู้สื่อข่าวมีโอกาสเจอ "นัท" เลยถามเรื่องไปทำบุญกับพระเอกหนุ่ม เจ้าตัวตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมยอมรับว่าฝ่ายชายซื้อกำไลหางช้างให้จริงๆ "ไปทำบุญมาก็ดีค่ะ เพราะไปทำเป็นประจำอยู่แล้ว ถ้ามีโอกาสก็จะไป ที่บอกว่าอั้มซื้อกำไลให้ คือจริงๆ ซื้อของรวมๆ กัน แล้วหน้าวัดมีขายของ เขาก็ทำให้ตอนนั้นเลย มันไม่ใช่กำไลแทนใจอะไร เหมือนว่าซื้ออะไรมาแล้วก็ซื้อเผื่อ จริงๆเขาสั่งทำ 3 อันนะคะ แต่พอดีเรารีบๆ ไหว้แล้วต้องรีบไป เลยได้แค่สองชิ้น มันเป็นกำไลหางช้างแล้วเป็นทองแดง เลยต้องใช้เวลาในการทำ" "ส่วนนัทไม่มีอะไรให้เขา เพราะเหมือนว่าเขาจะสั่งทำอันเดียวมันก็ยังไงอยู่ มันเป็นกำไลที่เหมือนกับว่าเอาไว้ป้องกันภัย เป็นความเชื่อ ซึ่งนัทก็ไม่ได้ใส่ตลอด แต่จะใส่เป็นบางครั้ง ลายของนัทกับอั้มเหมือนกันเหรอ เรื่องนี้นัทไม่รู้เลย เพราะตอนที่เขาไปสั่ง เราก็ไปดูอีกที่หนึ่ง" "ส่วนการดูแลกันไม่ใช่เขาดูเราคนเดียว จนเราสบายมาก เขาไม่ได้ดูแลอะไรมาก ไม่ได้ถือกระเป๋าให้นัทตลอด เพราะมันหนัก ส่วนนัทก็ดูแลอั้ม เพราะเขาไม่สบายเป็นต่อมทอลซิลอักเสบ เพราะนั่งรถไกล 6 ชั่วโมงรถก็ปรับนั่งนอนไม่ได้ ทางก็ขรุขระ อากาศเปลี่ยนเป็นร้อนเย็น เราก็ถามเขาว่ากินยามั้ยเท่านั้นเอง แต่ถึงจะไปแบบทุลักทุเล แต่ก็โอเคค่ะ เพราะอยากไปที่ที่คนไปกันเยอะๆ และกว่าจะไปถึงมันต้อง ใช้ความพยายามบากบั่นที่จะไป"

การวัดขนาดแหวนด้วยตนเอง

ตารางวัดขนาดแหวน (อ่าน 37474/ตอบ 13)

ตารางวัดขนาดแหวนด้วยตนเอง ( Ring Size ) หน่วยนับเป็น mm ( มิลลิเมตร ) Size เส้นผ่านศูนย์กลาง เส้นรอบวง 5 15.6 49.3 6 16.5 51.9 7 17.2 54.5 8 18 57 9 19 59.5 10 19.8 62.1 11 20.8 64.6 วิธีการวัดขนาดแหวนด้วยตัวคุณเอง 1.กรณีที่คุณมีแหวนที่เหมาะสมกับนิ้วคุณอยู่แล้ว - วัดเส้นผ่านศูนย์กลางของแหวนที่เหมาะกับคุณโดยวัดจากขอบด้านในแหวนหน่วยเป็นมิลลิเมตรนำค่าที่ได้มาเทียบกับตารางในช่อง เส้นผ่านศูนย์กลาง 2.กรณีที่ยังไม่มีแหวนเป็นของตนเอง -นำด้ายมาวัดนิ้วที่ต้องการใส่แหวนโดยอย่าให้แน่นหรือหลวมเกินไป แล้วนำมาวัดหน่วยเป็นมิลลิเมตรมาเทียบกับ ช่องเส้นรอบวง การวัดโดยใช้เส้นรอบวงนี้แนะนำว่าจะต้องมีการเผื่อเล็กน้อยเนื่องจากด้าย ที่ใช้วัดอาจมีการยืดหยุนจนอาจทำให้ขนาดเพี้ยนได้ ** กรณีที่มีการสงสัยระหว่างขนาดแหวน 2 ขนาดให้เลือกขนาดที่ใหญ่กว่า**

ข้อดีมากมายของ อัญมณีเทียม-อัญมณีโคลนนิ่ง

ทำไมเครื่องประดับชอบใช้เพชรโคลนนิ่ง?

อัญมณีเทียม-อัญมณีโคลนนิ่ง

ความต้องการอัญมณีชนิดหายากที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีการผลิตอัญมณีเทียมขึ้นมาเป็นจำนวนมากบางชนิดเป็นที่นิยม บางชนิดไม่เป็นที่นิยม

         1.อัญมณีเทียม (False gemstone) คือวัตถุที่มนุษย์ผลิตขึ้นเอง ซึ่งมีคุณสมบัติทางเคมี,ทางกายภาพและทางแสงเหมือนอัญมณีธรรมชาติ แต่ตำหนิภายในอัญมณีสังเคราะห์จะแตกต่างจากอัญมณีธรรมชาติ เช่น ทับทิมสังเคราะห์ ไพลินสังเคราะห์ มรกตสังเคราะห์ และสปิเนลสังเคราะห์ เป็นต้น

        2.อัญมณีเลียนแบบ (Imitation or stimulant) คือ วัตถุที่มีลักษณะภายนอกคล้ายอัญมณีธรรมชาติที่ต้องการเลียนแบบแต่ส่วนประกอบและคุณสมบัติต่างๆ แตกต่างจากอัญมณีธรรมชาตินั้น เช่น โกเมน สีแดงเลียนแบบทับทิม แก้วสีเขียวเลียนแบบมรกต คาลซีโดนีสีเขียวเลียนแบบหยก และคิวบิกเซอร์โคเนียสังเคราะห์เลียนแบบเพชร เป็นต้น

                       3.พลอยปะ (Assembled stone) คือ อัญมณีที่เกิดจากการนำอัญมณีสังเคราะห์มาปะติดกับอัญมณีจริงโดยชั้นบนเป็นอัญมณีจริงและชั้นล่างเป็นอัญมณีสังเคราะห์  เช่น แซฟไฟร์ กับแซฟไซร์สังเคราะห์สีน้ำเงินหรือแดง เป็นต้น นอกจากนี้ยังนิยมการทำพลอยปะในโอปอลเพื่อเพิ่มความทนทาน เช่น โอปอลปะ 2 และ โอปอล 3 เป็นต้น

 เพชรสังเคราะห์

อัญมณีเทียมที่ทำเลียนแบบเพชรมีหลายชนิด เช่น CZ,โมอีส,รูไทล์สังเคราะห์,แก้วเป็นต้น

1.เพชรรัสเซีย (Cubic Zirconia) เป็นพลอยสังเคราะห์ที่นิยมมากที่สุด ในการเลียนแบบเพชรแท้ วิธีแยกพลอยชนิดนี้ออกจากเพชรคือใช้เครื่องจี้เพชรจี้ดู เนื่องจากพลอยชนิดนี้ไม่มีคุณสมบัติในการนำความร้อนเหมือนกับเพชร

2. เพชรโมอีส (Moissanite) เป็นพลอยสังเคราะห์ที่มีลักษณะทางกายภาพและคุณภาพที่คล้ายคลึงกับเพชรมากที่สุดในขณะนี้ เครื่องจี้เพชรที่อาศัยการนำความร้อนใช้แยกไม่ได้ เพราะเพชรโมอีส ก็มีคุณสมบัตินำความร้อนได้เหมือนกัน ยกเว้นแต่เครื่องจี้พิเศษใช้จี้เพื่อแยกเพชรโมอีสนี้ให้ออกจากเพชรโดยเฉพาะ  ข้อสังเกตุเพชรโมอีสจะมีค่าการกระจายแสงสูงกว่าเพชร จึงมีสีรุ้งแตกออกมามากกว่า

3. รูไทล์สังเคราะห์ (Synthetic Rutile) มีสีรุ้งมากเนื่องจากการกระจายแสงสูง สีมักจะติดเหลืองเสมอ ในปัจจุบันมักจะไม่นิยมนำมาเลียนแบบเพชร เพราะค่าความแข็งน้อยจึงเกิดรอยขูดขีดได้ง่าย

4.แก้ว (Glass) เป็นพลอยสังเคราะห์ที่มีการกระจายแสงต่ำกว่าเพชรมาก แต่ถ้ามีขนาดเท่ากัน เพชรจะมีน้ำหนักเบากว่ามาก เพราะแก้วมีความความถ่วงจำเพาะสูง

รู้จัก Cubic Zirconia

                Synthetic cubic zirconia หรือ CZ เป็นเพชรเลียนแบบที่นับว่าเหมือนเพชรมากที่สุด เป็นเพชร


เลียนแบบที่ประดิษฐ์ด้วยวิธี Skull melting ที่ต้องใช้อุณหภูมิสูงมากในการสร้างผลึก การที่เรียกว่า 


Synthetic cubic zirconiaเพราะมีแร่ธาตุทางธรรมชาติที่มีคุณสมบัติทางแสง ทางเคมีและทางกายภาพ


ที่คล้ายคลึงกันแต่หาได้ยากมากsynthetic cubic zirconia มีความแวววาวและมีประกายที่เกือบเหมือน


เพชร แต่มีการกระจายแสงสูงกว่าซึ่งสังเกตเห็นไม่ง่ายนัก

คิวบิก เซอร์คอเนีย เป็นธาตุสังเคราะห์ที่คิดค้นพัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์ด้านอัญมณี มีลักษณะ 


เป็นผลึกใส สามารถสะท้อนแสงได้ดี สะท้อนได้แม้แสงเลเซอร์ คุณสมบัติใกล้เคียงกับเพชรแท้ที่
ได้จากการทำเหมืองเพชรในอัฟริกา เมื่อนำมาเจียระไนและขัดแต่งด้วยช่างฝีมือที่ชำนาญงาน
เจียระไนแล้ว จะได้ชิ้นงานเพชรสังเคราะห์ที่มีความเหมือนเพชรแท้อย่างมาก เหมือนด้วยรูป
ลักษณ์ที่ปรากฏ และ คุณลักษณะทางวิทยาศาสตร์เมื่อเทียบกับเพชรแท้ จนทำให้ผู้คนทั่วไป หรือ
แม้แต่นักอัญมณีศาสตร์ที่มีประสบการณ์ ผ่านการอบรม ก็ยังไม่สามารถจำแนก แยกออกได้ด้วยตาเปล่า

                คิวบิก เซอร์คอเนีย สังเคราะห์จากธาตุสำคัญ 2 ชนิด คือ เซอร์คอเนียม ออกไซด์ และ อิธเธียม ออกไซด์ หลอมรวมกันในอุณหภูมิ 5,500 องศา ในห้องแลบควบคุมพิเศษ คิวบิก เซอร์คอเนียจะมีน้ำหนักมากกว่าเพชรแท้ 75เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเพชรแท้ในน้ำหนักกะรัตที่เท่ากัน  คิวบิก เซอร์คอเนีย ที่สวยงามที่สุด คือ คิวบิก เซอร์คอเนียไร้สี (สีขาว) และมีประกายเจิดจรัสเทียบเท่าอัญมณีแท้

                ปัจจุบันมี CZ 3 เกรดด้วยกัน ดังนี้

1.       เกรดเชิงพาณิชย์เป็นเกรดต่ำที่สุดของ CZ สามารถแยกออกจากเพชรได้ง่ายทั้งในเรื่องความใส สี ประเภทCZ เกรดนี้จะมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “เพชรรัสเซีย”

2.       เกรดธรรมดาโรงงานผู้ผลิตคิวบิก เซอร์คอเนีย ส่วนใหญ่จะผลิต คิวบิก เซอร์คอเนีย ในเกรดธรรมดา เจียระไนเพียงไม่กี่ขั้นตอน แล้วจำหน่ายเป็นเครื่องประดับราคาถูกเพื่อลดต้นทุนการผลิต

3.       เกรดพิเศษ (AAA)

                 CZ เกรดนี้จะมีความเหมือนเพชรแท้มากที่สุด แยกออกจากเพชรด้วยตาเปล่าได้ยากมาก 


ซึ่งชื่อทางการค้าที่ใช้ก็จะเรียกต่างกันตามรูปแบบการเจียระไน ชื่อเรียกที่ได้ยินบ่อยก็คือ “เพชรสวิส”


 เนื่องจากใช้รูปแบบการเจียระไนของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แต่ CZ ที่เลือกใช้นั้นเป็นคุณภาพ


แบบ “EUROPEAN MACHINE CUT” หมายถึง CZ ที่ผลิตมาจากยุโรปโดยใช้เครื่องที่ถูกควบคุมด้วย 


Computer ทำให้มีความแม่ยำสูงและใช้ LASER เจียรทำให้เพชร CZ ที่ได้มีความสมบูรณ์ที่สุด ส่วน


ในเรื่องของรูปแบบการเจียรนั้นเป็นแบบ “เบลเยี่ยม คัท” ซึ่งทำให้เพชรส่งประกายได้สูงที่สุด 


เบลเยี่ยม คัทนั้นถือว่าเป็นการเจียระไนที่ดีที่สุดและได้รับความนิยมเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก

เพชรแท้-เพชรเทียม

วิธีที่จะบอกความแตกต่างระหว่างเพชรและ CZ ได้คือการใช้กล้องขยายที่มีกำลังขยาย 10 เท่า จะเห็นได้ถึงเหลี่ยมมุมด้านในที่จะไม่เป็นเส้นตรงและเมื่อเส้นเหล่านี้มาตัดกันก็จะสังเกตได้ชัดจนมากขึ้นว่าเหลี่ยมไม่คมชัด แต่จะมีลักษณะกลมมนมากกว่าเพชรหากต้องการจำแนกที่ชัดเจนถูกต้องมีเพียงการใช้เครื่องตรวจสอบอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้นที่จะสามารถบ่งบอกถึงความแตกต่างได้อย่างแม่นยำ