Cut | การเจียระไน ความสวยงามของเพชรนั้นขึ้นอยู่กับวิธีการเจียระไน รวมถึงความสามารถและความชำนาญในการเจียระไนด้วย เพชรสามารถเจียระไนออกมาได้หลายรูปทรง แต่รูปทรงที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือ ทรงกลม (Round shape) รูปแบบของการเจียระไนเพชรทรงกลมที่สวยงามที่สุดมีชื่อเรียกว่า "Brillant Cut" หรือที่รู้จักกันในนาม "เหลี่ยมเกสร"
ตัวอย่างลักษณะรูปทรงของเพชร
ตัวอย่างลักษณะรูปทรงของเพชร
คุณภาพของการเจียระไนและขัดผิวจะส่งผลต่อลักษณะของแสงที่เดินทางผ่านเพชรมาให้เราเห็น คุณสมบัติเหล่านี้ได้แก่ Proportion (สัดส่วน), Symmetry (ความสมมาตร), Polish (การขัดผิว) และอื่นๆ
ลักษณะของแสง (Light’s Performance) ที่ดีนั้น แสงทั้งหมดจะต้องถูกสะท้อนมายังผู้สวมใส่ และให้ความแวววาว (Brilliance) สูงสุด ตามภาพที่แสดงด้านล่างดังนี้
ลักษณะของแสง (Light’s Performance) ที่ดีนั้น แสงทั้งหมดจะต้องถูกสะท้อนมายังผู้สวมใส่ และให้ความแวววาว (Brilliance) สูงสุด ตามภาพที่แสดงด้านล่างดังนี้
|
เพชร Hearts & Arrows (H&A) เป็นเพชรที่ได้รับการเจียระไนได้สมบูรณ์แบบที่สุด มีลักษณะพิเศษคือจะให้แสงสะท้อนที่แวววาวสูงสุด ใช้เรียกกับเพชรรูปทรงกลมเท่านั้น ซึ่งมีลักษณะเด่นคือ เราจะเห็น Pattern รูปหัวใจ 8 ดวงเมื่อมองจากด้านล่าง และลูกศร 8 ศร เมื่อมองจากด้านบน โดยหัวใจ และลูกศรก็จะมีขนาดเท่ากันทั้งหมด และวางตัวอย่างสมมาตรด้วย ซึ่งเราจะพบเพชร Heart & Arrows 1-2% ของเพชรทั้งหมดในโลกนี้เท่านั้นที่จะเจียระไนได้สมบูรณ์แบบระดับนี้ ซึ่งก็ทำให้มีราคาสูงกว่าเพชรทั่วไป
Color | สี
สีของเพชรจะถูกจัดแบ่งโดยเริ่มตั้งแต่เพชรที่ใส ไม่มีสี (Colorless), เริ่มมีสีนวลขึ้นในระดับที่ สายตาเริ่มสังเกตได้ (Near Colorless), เป็นสีเหลืองจางๆ (Yellow Tinge) และเป็นสีเหลืองอ่อนๆ (Light Yellow)
หากใช้มาตราฐานของ GIA จะสามารถแบ่งระดับสีหรือที่เรานิยมเรียกกันว่า "น้ำ" โดยใช้อักษรตั้งแต่ D ซึ่งเทียบเท่ากับน้ำ 100 ถัดมาเป็น E ซึ่งเทียบเท่ากับน้ำ 99 ไล่ลงไปเรื่อยๆ จนถึง Z ดังนี้
สีของเพชรจะถูกจัดแบ่งโดยเริ่มตั้งแต่เพชรที่ใส ไม่มีสี (Colorless), เริ่มมีสีนวลขึ้นในระดับที่ สายตาเริ่มสังเกตได้ (Near Colorless), เป็นสีเหลืองจางๆ (Yellow Tinge) และเป็นสีเหลืองอ่อนๆ (Light Yellow)
หากใช้มาตราฐานของ GIA จะสามารถแบ่งระดับสีหรือที่เรานิยมเรียกกันว่า "น้ำ" โดยใช้อักษรตั้งแต่ D ซึ่งเทียบเท่ากับน้ำ 100 ถัดมาเป็น E ซึ่งเทียบเท่ากับน้ำ 99 ไล่ลงไปเรื่อยๆ จนถึง Z ดังนี้
การจัดแบ่่งสีของเพชรต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ซึ่งสายตาของคนทั่วไปจะไม่สามารถดูความแตกต่างของสีเพชรได้ ดังนั้นเพชรทุกเม็ดต้องมีใบ Certificate กำกับ.
Clarity | ความสะอาด
การเกิดเพชรตามธรรมชาติภายใต้แรงกดดันและอุณหภูมิที่สูงมาก และปรากฎการณ์ธรรมชาติก็สามารถก่อให้เกิดรอยตำหนิในเพชรหรืออาจทำให้เพชรมีมลทินได้ เพชรที่ไม่มีมลทินและตำหนิ หรือมีน้อยก็จะยิ่งหายากและจะมีมูลค่าสูงขึ้นด้วย
เพชรสามารถแบ่งตามคุณภาพของความสะอาด ภายใต้การใช้กล้องขยายที่มีกำลังขยาย 10 เท่าได้ดังนี้
|
Carat Weight | กะรัต
หน่วยที่เป็นมาตราฐานในการใช้ชั่งน้ำหนักเพชรและอัญมณีต่างๆคือ "กะรัต" (Carat) หรือย่อว่า ct ใน 1 กะรัตจะแบ่งเป็นหน่วยย่อยๆ 100 หน่วย เรียกว่าPoint หรือที่รู้จักกันว่า "ตัง" เช่นเพชรที่มีขนาด 0.50 ct ก็จะเรียกว่า 50 Point หรือ 50 ตัง
ราคาของเพชรจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักและคุณลักษณะอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้นเพชที่มีน้ำหนักเท่ากัน อาจจะมีราคาที่แตกต่างกันได้ อีกทั้งราคาของเพชรจะถูกแบ่งเป็นกลุ่มๆโดยอาศัยช่วงน้ำหนัก ราคาจะมาสูงขึ้นในอัตราส่วนเดียวกับน้ำหนักกะรัต เช่น เพชร 2 กะรัตไม่ได้มีราคาเป็น 2 เท่าของ เพชร 1 กะรัต
ภาพด้านล่างแสดงขนาดโดยประมาณของเพชรในแต่ละกะรัต
หน่วยที่เป็นมาตราฐานในการใช้ชั่งน้ำหนักเพชรและอัญมณีต่างๆคือ "กะรัต" (Carat) หรือย่อว่า ct ใน 1 กะรัตจะแบ่งเป็นหน่วยย่อยๆ 100 หน่วย เรียกว่าPoint หรือที่รู้จักกันว่า "ตัง" เช่นเพชรที่มีขนาด 0.50 ct ก็จะเรียกว่า 50 Point หรือ 50 ตัง
ราคาของเพชรจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักและคุณลักษณะอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้นเพชที่มีน้ำหนักเท่ากัน อาจจะมีราคาที่แตกต่างกันได้ อีกทั้งราคาของเพชรจะถูกแบ่งเป็นกลุ่มๆโดยอาศัยช่วงน้ำหนัก ราคาจะมาสูงขึ้นในอัตราส่วนเดียวกับน้ำหนักกะรัต เช่น เพชร 2 กะรัตไม่ได้มีราคาเป็น 2 เท่าของ เพชร 1 กะรัต
ภาพด้านล่างแสดงขนาดโดยประมาณของเพชรในแต่ละกะรัต
เกรดการเจียระไนเพชรแบบต่าง ๆ
เพชรอินเดียหรืออินเดียนคัท (Indian Cut)
พูดว่าอินเดียก็ไม่ต้องอธิบายมากแล้วว่าคุณภาพประมาณไหน เพราะคำว่า "อินเดีย" เองก็มีคำจำกัดความที่ชัดเจนประมาณนึง เพชรอินเดียในอดีต หมายถึงเพชรที่มีคุณภาพต่ำ สีไม่ขาวมาก ความสะอาดต่ำที่สุดในกระบวนเพชรทั้งหมด เนื่องจากมีคุณภาพต่ำ จึงส่งไปเจียระไนกันที่อินเดียเพราะค่าแรงถูก ทำให้คุณภาพการเจียระไนออกมาแบบอินเดี๊ย-อินเดียไปด้วย
พอเริ่มยุคฟองสบู่แตกในประเทศไทย ก็เริ่มมีศัพท์ใหม่ซึ่งแตก Segment ออกมาจากอินเดียธรรมดาได้อย่างมหัศจรรย์ นั่นก็คือคำว่า Top Indian หมายถึงเพชรอินเดียที่เหนือกว่าอินเดียธรรมดาทั่วไปและมักจะมาพร้อมคำโฆษณาที่แขกขายเพชรชอบหลอกล่อร้านเพชรบ่อยๆก็คือ After setting looks white หรือ ฝังออกมาก็ไม่เห็นหรอกว่าเป็นสีเหลืองๆ จึงทำให้ Top Indian ขายดิบขายดี เมื่อฝังเสร็จแล้ว ถึงร้านเพชรจะบอกลูกค้าว่าเป็นเบลเยี่ยม ลูกค้าก็ดูไม่ออกอยู่ดี เพราะการแยกเพชรเม็ดเล็กๆว่าเป็น Indian หรือ Belgium ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญประมาณหนึ่งถึงจะดูได้ขาด
ส่วนอินเดียนคัทที่ครองรางวัลบู้บี้นั้น เราแอบตั้งชื่อเล่นกันว่า อินเดียช้างเหยียบค่ะ คุณภาพระดับนี้ไม่เหลืออะไรให้ภาคภูมิใจแล้วนอกจากการที่มันได้เกิดเป็นเพชร!! คุณภาพที่ว่านี้ ราคาต่อกะรัตเป็นหลักพัน สีน้ำตาลเฉียดไปทางดำคล้ำ รอยแตกไม่ต้องพูดถึงเพราะร้าวรานจับใจมองเห็นรอยแตกได้ด้วยตาเปล่า คาดว่าคงโดนช้าง ม้า วัว ควายรุมสกรัมกันจนหมดป่าไปแล้ว
เพชรเบลเยี่ยม (Belgium Cut)
เพชรเบลเยี่ยม เคยเจียระไนมาจากประเทศเบลเยี่ยมค่ะ เพชรที่ขุดขึ้นมาได้ทั้งหมดจะถูกส่งเข้าศูนย์กลางการค้าเพชรและจำแนกออกตามขนาด&คุณภาพ ซึ่งแบ่งออกได้ประมาณ 14,000 Category ที่แตกต่างกันเพื่อขายต่อไป เบลเยี่ยมเป็นหนึ่งประเทศที่ถือเป็นศูนย์กลางการค้าเพชรที่สำคัญของโลกและมีการเจียระไนไที่ขึ้นชื่อว่า เจียได้สวยและใช้เพชรคุณภาพดี จึงได้รับความนิยมมากค่ะ
เมื่อก่อนนี้ก็เจียในเบลเยี่ยมแหละค่ะ แต่เดี๋ยวนี้เจียกันทั่วไปหมดแล้ว เพราะเราสามารถ QC ให้ออกมาได้คุณภาพเดียวกัน ดังนั้น เดี๋ยวนี้เพชรเบลเยี่ยม เจียที่อินเดีย จีน ไทย ก็ได้ ขอให้คุณภาพดีเท่ากับเบลเยี่ยมก็เรียกเพชรเบลเยี่ยมหรือเบลเยี่ยมคัทได้เหมือนกันค่ะ
โดยเพชรเบลเยี่ยมที่ว่ามานี้ จะมีคุณภาพทั้งเรื่องสี ความสะอาดและการเจียระไนที่เหนือกว่าเพชรอินเดีย เป็นคุณภาพที่ได้รับความนิยมใช้กันสูงสุดก่อนที่เศรษฐกิจในบ้านเราจะสบู่แตกโป๊ะกันไป.. ดังนั้นถ้าใครมีเครื่องเพชรที่มีอายุช่วงประมาณ 15-20 ปีที่แล้ว คุณภาพเพชรที่ใช้มักจะเป็นเพชรเนื้อใสๆ สีค่อนข้างขาวและคุณภาพการเจียค่อนข้างดีทีเดียวค่ะ
เรื่องความสวยนี้ ถ้าวางไว้คู่กับ Top Indian บางทีก็บอกยากเหมือนกันค่ะ ต้องส่องกันดีดีถึงจะเจอความแตกต่าง ส่วนเรื่องราคาก็สูงขึ้นมามากกว่า บ่อยครั้งที่มีคนขาย (สัญชาติเดิม...) มาเสนอขายในราคาแสนประทับใจ พอเอาของมาให้ดูก็เป็นต้องตีกลับกันทุกรายเพราะส่วนใหญ่จะเป็นอินเดียนคัทปลอมตัวมา จนในช่วงหลังๆ คุณหมอก็เลยใช้วิธีถามราคาก่อนค่ะ ถ้าราคาต่ำมากๆ ก็ให้สันนิษฐานไว้ได้เลยว่าอันนี้เบลเยี่ยมปลอมชัวร์ๆ ไม่ต้องเสียเวลาดู เพราะแค่เริ่มติดต่อกันก็ไม่จริงใจแล้ว อย่าได้ค้าขายกันเลยจะดีกว่า
เพชรรัสเชียน (Russian Cut)
เพชรรัสเชี่ยนถือเป็นเพชรที่มีคุณภาพดีที่สุดในกระบวนเพชรทั้งหมด ทั้งในเรื่องสี ความสะอาดและไฟที่แวววิ๊งๆเตะตามากกว่าสองคุณภาพที่ว่ามา หลายๆครั้งที่เคยใช้เพชรรัสเชี่ยนทำเครื่องประดับ แผนกชุบถึงกับต้องโทรมาถามว่านี่เพชรจริงหรือเปล่า เพราะไฟสวยพุ่งเข้าตากว่าเพชรปกติทั่วไป (เนื่องจากเพชรรัสเซียซึ่งเป็นวัสดุเลียนแบบเพชรนั้นจะมีความแวววาวมากกว่าเพชรปกติค่ะ)
เมื่อก่อนนี้ ถ้าเรียกรวมว่ารัสเชี่ยนคัทก็จะหมายถึงความสวยที่มาพร้อมกันทุกหมวดหมู่ แต่ในปัจจุบันนี่สั่งแยกได้เหมือนก๋วยเตี๋ยวเลยค่ะ ประมาณว่า ต้องการเพชรสีขาว มีตำหนินิดหน่อยได้ แต่ขอรัสเชี่ยนคัท คือ การเจียระไนที่ดีสุดๆ คุณก็จะได้เพชรสีขาวมาก ไฟเด้งมากมายแต่ไม่เน้นเรื่องความสะอาด ส่องด้วยกล้องก็อาจจะเห็นตำหนิบ้าง หลายๆร้านก็ใช้วิธีนี้เพราะเพชรจะดูขาว สวย ไฟพุ่งกระจัดกระจายในราคาที่ไม่แพงมากค่ะ
คุณสมบัติของรัสเชี่ยนคัท (ถ้าพูดถึงแง่การเจียระไนอย่างเดียว) ก็จะเป็นเพชรที่มีสัดส่วนดีมากๆค่ะ Hearts & Arrowss เองก็เทียบเท่าเพชรรัสเชี่ยนคัท ดังนั้น H&A ทุกเม็ดก็คือ Russian Cut ด้วย หลายๆครั้งที่สั่งเพชรเม็ดเล็กๆไซส์ 1-2 ตังมาแบบยกห่อ เอากล้อง H&A มาส่องก็จะเห็น H&A จิ๋วๆเต็มไปหมด น่ารักมากๆเลยค่ะ
เพชร Heart & Arrow (Ideal Cut)
เพชร Heart & Arrow (Ideal Cut) หรือเรียกสั้นๆ ว่าเพชร H&A นั้น เป็นเพชรที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเพชรทรงกลม (Round Brilliant) มีเหลี่ยมการเจียระไนเหลี่ยมที่ประณีต สวยสมบูรณ์แบบมากที่สุด ทุกขั้นตอนการเจียระไนต้องอาศัยความแม่นยำ ทั้งในด้านสัดส่วน (Proportion) ความสมมาตร (Symmetry) และการขัดเงา (Polish) ซึ่งความสมดุลทั้งหมดนี้ ทำให้เพชร Heart & Arrow เปล่งประกายสะท้อนความงดงามได้อย่างเต็มที่เหนือกว่าเพชรทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด แม้สังเกตด้วยตาเปล่าจะเห็นว่าเพชร Heart & Arrow มีประกายความงดงามมากที่สุด
เมื่อใช้กล้องพิเศษสำหรับส่องดูเพชร Heart & Arrow โดยเฉพาะ สิ่งที่ได้เห็นคือรูปแบบการเจียระไนแบบพิเศษ ซึ่งเมื่อมองผ่านกล้องจากด้านบน (face-up) จะเห็น pattern รูปลูกศร จำนวน 8 ดอก ซึ่งมีขนาดและสัดส่วนเท่ากันอย่างชัดเจน และเมื่อมองผ่านกล้องจากด้านล่าง(Bottom up)ก็จะเห็น pattern รูปหัวใจ 8 ดวงที่สมบูรณ์เช่นกัน การเจียระไนแบบพิเศษนี้เอง ที่ทำให้เพชร Heart & Arrowมีปริมาณแสงที่สะท้อนกลับออกมาสมบูรณ์แบบ
รูปสัญลักษณ์ลูกศร 8 ดอก และหัวใจ 8 ดวง นั้นมีความหมายลึกซึ้งควรค่าแก่การครอบครองเป็นอย่างยิ่งโดยประเทศในเอเชีย นั้นเชื่อว่าเพชร Heart & Arrow เป็น "The Stone of Lack" (อัญมณีแห่งความโชคดี ) ส่วนประเทศฝั่งตะวันตก เช่นยุโรปและสหรัฐอเมริกานั้น เรียกเพชรนี้ว่า"The Proof of Love" (สัญลักษณ์แห่งความรัก)
Educationความรู้เรื่องเพชร |
เพชรรูปทรงต่างๆ |
|